ภาวะตลาดหุ้นนิวยอร์กวิตกเศรษฐกิจถดถอย ฉุดดาวโจนส์ปิดร่วง 99.80 จุด

ข่าวหุ้น-การเงิน Thursday December 18, 2008 06:39 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดร่วงลงเกือบ 100 จุดเมื่อคืนนี้ (17 ธ.ค.) หลังจากมีข้อมูลบ่งชี้ว่าเศรษฐกิจสหรัฐเข้าสู่ภาวะถดถอยในระดับที่ลึกขึ้น รวมถึงการเปิดเผยตัวเลขขาดทุนของมอร์แกน สแตนลีย์ และโกลด์แมน แซคส์ ซึ่งส่งผลให้กระแสตอบรับการปรับลดอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) แผ่วลง

สำนักข่าวเอพีรายงานว่า ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดลบ 99.80 จุด หรือ 1.12% แตะที่ 8,824.34 จุด ขณะที่ดัชนี S&P 500 ปิดลดลง 8.76 จุด หรือ 0.96% แตะที่ 904.42 จุด และดัชนี Nasdaq ปิดลบ 10.58 จุด หรือ 0.67% แตะ 1,579.31 จุด

ปริมาณการซื้อขายในตลาดหุ้นนิวยอร์กมีอยู่ราว 1.33 พันล้านหุ้น มีจำนวนหุ้นบวกมากกว่าหุ้นลบในอัตราส่วน 3 ต่อ 2 ส่วนปริมาณการซื้อขายในตลาด Nasdaq มีอยู่ราว 2.12 พันล้านหุ้น

เดวิด แวดเดลล์ หัวหน้านักวิเคราะห์จากบริษัท แวดเดลล์ แอนด์ แอสโซซิเอทส์ กล่าวว่า ในช่วงเช้านั้นตลาดหุ้นนิวยอร์กดีดตัวขึ้นต่อเนื่องจากเมื่อวันอังคาร เนื่องจากนักลงทุนยังคงขานรับการที่เฟดตัดสินใจลดอัตราดอกเบี้ยระยะสั้น (fed funds rate) ลงอีก 0.75-1.0% สู่ระดับเป้าหมาย 0-0.25% ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนก.ค.ปีพ.ศ.2497 จากเดิมที่ระดับ 1.00%

แต่ดาวโจนส์เริ่มถอยร่นลงสู่แดนลบในช่วงบ่าย หลังจากมีข้อมูลบ่งชี้ว่าเศรษฐกิจสหรัฐเข้าสู่ภาวะถดถอยในระดับที่ลึกขึ้น รวมถึงข่าวที่ว่าโกลด์แมน แซคส์ เปิดเผยตัวเลขขาดทุนไตรมาสสี่มูลค่า 2.29 พันล้านดอลลาร์ ซึ่งเป็นการขาดทุนครั้งแรกนับตั้งแต่บริษัทนำหุ้นเข้าจดทะเบียนซื้อขายในตลาดหุ้นนิวยอร์ก และมอร์แกน สแตนลีย์ เปิดเผยตัวเลขขาดทุน 2.37 พันล้านดอลลาร์ หรือ 2.34 ดอลลาร์/หุ้น

"ตัวเลขขาดทุนของสองวาณิชธนกิจรายใหญ่ของสหรัฐส่งผลให้เกิดความวิตกกังวลว่า จะมีคนตกงานเพิ่มขึ้นในสหรัฐ ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อตัวเลขการใช้จ่ายผู้บริโภคซึ่งเป็นแรงขับเคลื่อนหลักของระบบเศรษฐกิจสหรัฐ" แวดเดลล์กล่าว

อย่างไรก็ตาม ตลาดหุ้นนิวยอร์กยังพอได้รับปัจจัยบวกอยู่บ้าง หลังจากนายเฮนรี พอลสัน รมว.คลังสหรัฐได้ออกมายืนยันผ่านการให้สัมภาษณ์ทางสถานีโทรทัศน์ CNBC ว่า บริษัทรถยนต์ในสหรัฐจะได้รับความช่วยเหลือจากรัฐบาลทันทีที่รัฐบาลร่างแผนการให้ความช่วยเหลือที่เหมาะสม เพื่อสร้างความเชื่อมั่นว่าบริษัทรถยนต์ภายในประเทศจะอยู่รอดได้ในระยะยาว

นอกจากนี้ พอลสันยังสนับสนุนการตัดสินใจของเฟดที่พยายามสร้างเสถียรภาพในตลาดการเงินและระบบเศรษฐกิจของสหรัฐ ด้วยการลดอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นลงสู่ระดับเป้าหมาย 0-0.25%

เจนเนอรัล มอเตอร์ส (จีเอ็ม) และ ไครสเลอร์ สองค่ายรถยนต์ยักษ์ใหญ่ในกลุ่มบิ๊กทรี ต้องการเงินช่วยเหลือจากรัฐบาลสหรัฐมูลค่า 1.4 หมื่นล้านดอลลาร์เพื่อให้บริษัทสามารถดำเนินธุรกิจต่อไปได้จนถึงไตรมาสแรกปีหน้า ขณะที่นักลงทุนคาดการณ์ว่าคณะทำงานของประธานาธิบดีจอร์จ ดับเบิ้ลยู บุช จะนำเงินจากโครงการลดสินทรัพย์ที่มีปัญหา (TARP) มูลค่า 7 แสนล้านดอลลาร์ออกมาช่วยเหลือบริษัทรถยนต์

นักลงทุนจับตาดูประสิทธิภาพในการดำเนินงานของคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (SEC) หลังจากนายคริสโตเฟอร์ ค็อกซ์ ประธาน SEC ได้ออกมายอมรับว่า SEC บกพร่องในเรื่องการตรวจสอบกองทุนแชร์ลูกโซ่ของนายเบอร์นาร์ด มาดอฟฟ์ อดีตประธานกรรมการตลาดนาสแดค จนสร้างความเสียหายให้กับสินทรัพย์ของสถาบันการเงินและบริษัทใหญ่ๆทั่วโลกเป็นวงเงินสูงถึง 5 หมื่นล้านดอลลาร์

ทั้งนี้ หุ้นโกลด์แมน แซคส์ ดีดขึ้น 3.7% ขณะที่หุ้นมอร์แกน สแตนลีย์ ปิดบวก 2.3% ส่วนหุ้นกลุ่มพลังงานร่วงลงตามราคาน้ำมันดิบ แม้กลุ่มโอเปคมีมติลดกำลังการผลิต 2.2 ล้านบาร์เรล/วัน โดยหุ้นเชฟรอน ร่วงลง 2.8% หุ้นเอ็กซอนโมบิล ดิ่งลง 2.5%



เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ