ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดบวกเมื่อคืนนี้ (17 ธ.ค.) จากแรงซื้อที่ส่งเข้าหนุนหุ้นกลุ่มสินค้าโภคภัณฑ์ รวมถึงหุ้นเฟรสนิลโล เนื่องจากราคาโลหะเงินและพลาตินัมที่พุ่งขึ้นและค่าเงินดอลลาร์ที่อ่อนตัวลง ทำให้นักลงทุนเชื่อว่าผลประกอบการของบริษัทผลิตโลหะมีแนวโน้มสดใส
สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า ดัชนี FTSE 100 ปิดบวก 15.11 จุด หรือ 0.4% แตะระดับ 4,324.19 จุด
พอล เว็บบ์ นักวิเคราะห์จากบริษัท ซีเอ็มซี มาร์เก็ตส์ ในกรุงลอนดอน กล่าวว่า หุ้นกลุ่มเหมืองแร่ โดยเฉพาะหุ้นบริษัทเฟรสนิลโลซึ่งเป็นผู้ผลิตโลหะเงินรายใหญ่ของโลก ได้รับแรงซื้อส่งเข้าหนุนอย่างคับคั่ง ส่งผลให้ราคาหุ้นเฟรสนิลโลพุ่งขึ้นกว่า 8% ขณะที่หุ้นลอนมินซึ่งเป็นผู้ผลิตพลาตินัมรายใหญ่อันดับ 3 ของโลก ดีดตัวขึ้น 6.7% เนื่องจากสกุลเงินดอลลาร์ที่อ่อนค่าลงช่วยหนุนราคาพลาตินัมในตลาดโลกพุ่งสูงขึ้นด้วย
ตลาดหุ้นลอนดอนได้รับแรงหนุนจากรายงานบันทึกการประชุมประจำวันที่ 4 ธ.ค.ของธนาคารกลางอังกฤษที่ระบุว่า คณะกรรมการกำหนดนโยบายของธนาคารมีมติให้ลดอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นลงสู่ระดับ 2% ในเดือนนี้ เพื่อยับยั้งเศรษฐกิจไม่ให้ถดถอยรุนแรง
หุ้นกลุ่มพลังงานดีดตัวขึ้นแม้ราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกร่วงลงหลังโอเปคมีมติลดกำลังการผลิต 2.2 ล้านบาร์เรล/วัน โดยหุ้นบีพีพุ่งขึ้น 2.2% หุ้นรอยัล ดัทช์ เชลล์ ปิดบวก 1.9% และหุ้นทุลโลว์ ออยล์ พุ่งขึ้น 2.3%
อย่างไรก็ตาม ภาวะการซื้อขายในตลาดยังคงซบเซาหลังจากโกลด์แมน แซคส์ เปิดเผยตัวเลขขาดทุนไตรมาสสี่มูลค่า 2.29 พันล้านดอลลาร์ ซึ่งเป็นการขาดทุนครั้งแรกนับตั้งแต่บริษัทนำหุ้นเข้าจดทะเบียนซื้อขายในตลาดหุ้นนิวยอร์ก และมอร์แกน สแตนลีย์ เปิดเผยตัวเลขขาดทุน 2.37 พันล้านดอลลาร์ หรือ 2.34 ดอลลาร์/หุ้น ซึ่งข่าวดังกล่าวส่งผลให้หุ้นธนาคาร HSBC ร่วงลงกว่า 2%