ภาวะตลาดหุ้นนิวยอร์กข่าว S&P ขู่ลดเครดิต GE ฉุดดาวโจนส์ปิดร่วง 219.35 จุด

ข่าวหุ้น-การเงิน Friday December 19, 2008 06:38 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดร่วงลงกว่า 200 จุดเมื่อคืนนี้ (18 ธ.ค.) หลังจากจากมีข่าวว่าสถาบันจัดอันดับความน่าเชื่อถือ สแตนดาร์ด แอนด์ พัวร์ (S&P) ขู่ลดอันดับความน่าเชื่อถือที่ AAA ของบริษัท เจเนอรัล อิเล็กทริก (GE) ซึ่งข่าวดังกล่าวส่งผลให้นักลงทุนวิตกกังวลและกระหน่ำขายหุ้น นอกจากนี้ การที่ราคาน้ำมันดิบร่วงลงอย่างต่อเนื่องยังฉุดหุ้นกลุ่มพลังงานดิ่งลงด้วย

สำนักข่าวเอพีรายงานว่า ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดร่วง 219.35 จุด หรือ 2.49% แตะที่ 8,604.99 จุด ขณะที่ดัชนี S&P 500 ปิดลบ 19.14 จุด หรือ 2.12% แตะที่ 885.28 จุด และดัชนี Nasdaq ปิดลบ 26.94 จุด หรือ 1.71% แตะที่ 1,552.37 จุด

ปริมาณการซื้อขายในตลาดหุ้นนิวยอร์กมีอยู่ราว 1.42 พันล้านหุ้น มีจำนวนหุ้นลบมากกว่าหุ้นบวกในอัตราส่วน 3 ต่อ 2 ส่วนปริมาณการซื้อขายในตลาด Nasdaq มีอยู่ราว 2.11 พันล้านหุ้น

ปีเตอร์ คาร์ดิลโล นักวิเคราะห์จากบริษัท เอวาลอน พาร์ทเนอร์ส กล่าวว่า ในช่วงเช้านั้นตลาดหุ้นนิวยอร์กเคลื่อนตัวในกรอบแคบๆ เนื่องจากนักลงทุนวิตกกังวลเรื่องข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐ รวมถึงตัวเลขชาวอเมริกันที่ขอรับสวัสดิการในระหว่างตกงาน และผลประกอบการที่ย่ำแย่ของมอร์แกน สแตนลีย์ และโกลด์แมน แซคส์

ภาวะการซื้อขายผันผวนมากขึ้นหลังจากมีรางานว่า S&P ระบุว่าอาจจะปรับลดอันดับเครดิตของ GE ซึ่งปัจจุบันยืนอยู่ที่ระดับ AAA และมีแนวโน้มที่จะลดอันดับเครดิตบริษัท GE Capital ซึ่งเป็นบริษัทในเครือด้วย ทั้งนี้ข่าวดังกล่าวได้ฉุดหุ้น GE ร่วงลง 8.2%

ส่วนหุ้นกลุ่มพลังงานดิ่งลงหลังจากราคาน้ำมันดิบตลาด NYMEX ร่วงลง 3.84 ดอลลาร์ แตะระดับ 36.22 ดอลลาร์/บาร์เรล แม้กลุ่มโอเปคพยายามสกัดกั้นการร่วงลงของราคาน้ำมันด้วยการประกาศลดกำลังการผลิตลง 2.2 บาร์เรล/วันก็ตาม โดยหุ้นเชฟรอนร่วงลง 4.9% และหุ้นเอ็กซอนโมบิล ดิ่งลง 5%

หุ้นเจนเนอรัล มอเตอร์ส (จีเอ็ม) ดิ่งลง 16% ขณะที่หุ้นฟอร์ด ร่วงลง 9.6% ท่ามกลางข่าวที่ว่าคณะทำงานของประธานาธิบดีบุชกำลังมองหาทางเลือกมากมายที่จะช่วยเหลืออุตสาหกรรมรถยนต์ภายในประเทศ

นอกเหนือจากความกังวลที่ S&P ขู่ว่าจะลดอันดับเครดิต GE แล้ว นักลงทุนยังคงวิตกกังวลเรื่องผลประกอบการในธุรกิจการเงิน หลังจากโกลด์แมน แซคส์ เปิดเผยตัวเลขขาดทุนไตรมาสสี่มูลค่า 2.29 พันล้านดอลลาร์ ซึ่งเป็นการขาดทุนครั้งแรกนับตั้งแต่บริษัทนำหุ้นเข้าจดทะเบียนซื้อขายในตลาดหุ้นนิวยอร์ก และมอร์แกน สแตนลีย์ เปิดเผยตัวเลขขาดทุน 2.37 พันล้านดอลลาร์ หรือ 2.34 ดอลลาร์/หุ้น

กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า จำนวนชาวอเมริกันที่ขอรับสวัสดิการในระหว่างตกงาน ร่วงลง 21,000 ราย สู่ระดับ 554,000 รายในรอบสัปดาห์ที่สิ้นสุด ณ วันที่ 13 ธ.ค.จากระดับ 575,000 รายในรอบสัปดาห์ก่อนหน้านั้น

นักลงทุนจับตาดูข่าวที่ว่า บารัค โอบามา ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐ เตรียมแต่งตั้งนางแมรี่ ชาปิโร ซีอีโอคณะกรรมการกำกับดูแลอุตสาหกรรมการเงิน (FINRA) ให้ดำรงตำแหน่งประธานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (SEC) แทนนายคริสโตเฟอร์ ค็อกซ์ เพื่อกอบกู้ชื่อเสียงของ SEC ที่ได้รับความเสียหายจากการถูกวิพากษ์วิจารย์เรื่องความหย่อนยานในการตรวจสอบคดีแชร์ลูกโซ่ของนายเบอร์นาร์ด มาดอฟฟ์


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ