บมจ.ทางด่วนกรุงเทพ (BECL)เปิดเผยว่า ได้รับแจ้งจากบริษัท ทางด่วนกรุงเทพเหนือ จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทย่อยว่า ตามที่คณะอนุญาโตตุลาการได้มีคำชี้ขาดข้อพิพาทตามที่บริษัทย่อยเรียกร้องให้การทางพิเศษแห่งประเทศไทย (กทพ.) ทำการชดเชยรายได้ค่าผ่านทางของทางพิเศษอุดรรัถยา (สายบางปะอิน-ปากเกร็ด)อันเนื่องมาจากทางที่มีลักษณะแข่งขันตามสัญญาโครงการทางด่วนสายบางปะอิน-ปากเกร็ด ให้ กทพ.ชำระเงินค่าชดเชยรายได้ที่ลดลงจากประมาณการในสัญญาให้แก่บริษัทย่อยสำหรับปี 2542 และปี 2543 รวมเป็นเงิน 1,790 ล้านบาท พร้อมทั้งดอกเบี้ยจนกว่าจะชำระเสร็จสิ้น
เมื่อวันที่ 18 ธันวาคม 2551 กทพ. ได้ มี หนังสือถึงบริษัทย่อยแจ้งว่า กทพ. ไม่สามารถปฏิบัติตามคำชี้ขาดของอนุญาโตตุลาการได้ เนื่องจาก กทพ. เห็นว่าคำวินิจฉัยของคณะอนุญาโตตุลการยังไม่ชอบด้วยกฎหมายที่ใช้บังคับข้อพิพาทและมิได้อยู่ในขอบเขตแห่งสัญญาอนุญาโตตุลาการ รวมทั้งการบังคับตามคำชี้ขาดดังกล่าวจะเป็นการขัดต่อความสงบเรียบร้อยของประชาชน
ทั้งนี้ตามพระราชบัญญัติอนุญาโตตุลาการ พ.ศ. 2545 บริษัทย่อยสามารถยื่นคำร้องต่อศาลที่มีเขตอำนาจภายใน 3 ปี นับแต่วันที่อาจบังคับตามคำชี้ขาดได้ เพื่อให้มีการบังคับตามคำชี้ขาดของอนุญาโตตุลาการโดยที่ กทพ. อาจขอให้ศาลเพิกถอนคำชี้ขาดได้ โดยยื่นคำร้องต่อศาลที่มีเขตอำนาจภายใน 90 วันนับแต่วันที่ได้รับสำเนาคำชี้ขาด