นายชัยพัชร ธนวัฒโน นักวิเคราะห์อาวุโส สำนักวิจัย บริษัทหลักทรัพย์ ทิสโก้ กล่าวว่า ราคาถ่านหิน BJI มีการดีดตัวขึ้นมาที่ 79.70 เหรียญ/ตัน เป็นการดีดขึ้นที่เกิดจาก transaction เล็ก ๆ เท่านั้น ซึ่งขณะนี้ยังบอกไม่ได้ว่าราคาถ่านหินจะกลับมาเข้าสู่วัฎจักรขาขึ้น เพราะทิศทางราคาถ่านหินเท่าที่ดูยังเป็นแค่การแกว่งแคบ ๆ และช่วงนี้ปริมาณการซื้อขายถ่านหินก็ยังถือว่าน้อยอยู่ แต่การขึ้นมาของราคาถ่านหินอาจจะเป็นแรงหนุนให้เกิดเก็งกำไรหุ้นในกลุ่มถ่านหินได้ในช่วงสั้น ๆ เท่านั้น
ทั้งนี้ เมื่อต้นเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา ราคาถ่านหินก็แกว่งอยู่กว่า 100 เหรียญ/ตัน ปัจจุบันอยู่ที่ 79.70 เหรียญ/ตันก็ยังถือว่ามีการปรับตัวลงมาค่อนข้างมาก ส่วนจะเห็นว่าราคาถ่านหินเป็นขาขึ้นหรือไม่คงจะต้องรอดูในช่วงใกล้เดือนเมษายน 2552 เพราะจะมีดีลของโรงไฟ้ของญี่ปุ่นกับเหมืองถ่านหินของออสเตรเลีย
อย่างไรก็ดี ยังคงแนะนำ"ซื้อ"หุ้นบมจ.บ้านปู(BANPU)เนื่องจากมีการทำ Contract ระยะยาวไว้แล้วในราคาที่ไม่ต่ำกว่าปี 2551 อีกทั้งมีการเพิ่มกำลังการผลิตที่เหมืองที่อินโดนีเซียด้วย โดยปีนี้(2551)คาดว่ากำไรสุทธิของ BANPU จะอยู่ที่ 10,578 ล้านบาท ส่วนปีหน้า(2552)คาดว่ากำไรสุทธิจะอยู่ที่ 13,597 ล้านบาท โดยประเมินว่าราคาขายถ่านหินของบ้านปูน่าจะดีกว่าปีนี้(51)ที่มีมีราคาขายเฉลี่ยที่ 74 เหรียญ/ตัน ส่วนปีหน้าคาดว่าราคาขายเฉลี่ยจะอยู่ที่ 80 เหรียญ/ตัน นอกจากนี้ยังมองว่าปริมาณขายถ่านหินของบ้านปูก็น่าจะที่จะเพิ่มขึ้นด้วย
บล.ฟาร์อีสท์ ระบุในบทวิเคราะห์ว่า หุ้น BANPU ราคาถูกกดด้วยเส้นค่าเฉลี่ย ทำให้ราคายากต่อการปรับตัวขึ้น ดังนั้นราคามีโอกาสที่จะลงมาปรับฐานอีกครั้ง สำหรับการซื้อควรหาจังหวะที่ราคาเข้าสู่ระดับราคาบริเวณแนวรับจะดีกว่า เพื่อหวังทำกำไรในรอบใหม่เพราะสัญญาณระยะกลางเริ่มแข็งแรงมากพอที่จะทำให้น่าสนใจ
พร้อมแนะซื้อแนวรับที่ 195-208 บาท ส่วนแนวต้านให้ไว้ที่ 230-240 บาท
ล่าสุดเมื่อ 19 ธ.ค.51 หุ้น BANPU ปิดที่ 222 บาท ลดลง 2 บาท (-0.89%)มูลค่าซื้อขาย 321.82 ล้านบาท