บมจ.บริหารและพัฒนาเพื่อการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม (GENCO)คาดว่า งานใหม่ที่เข้าไปรับบำบัดของเสียประเภทน้ำมันในท่าเรือเอกชนที่มาบตาพุด พร้อมเล็งเปิดแทงก์ฟาร์ม หวังเป็นตัวสร้างรายได้เข้ามาเสริมธุรกิจกำจัดกากอุตสาหกรรมที่ลดลง เพื่อให้รายได้เป็นไปตามเป้าหมายเบื้องต้นแค่ใกล้เคียงกับปีนี้ก็พอใจแล้ว ขณะที่ธุรกิจรีไซเคิลขยะอิเล็คทรอนิกส์ต้องชะลอไว้ก่อนเหตุคู่แข่งมากและงานกำจัดกากในโรงพยาบาลน่าจะได้ข้อสรุปในต้นปีหน้า
นายสมยศ แสงสุวรรณ กรรมการและรองกรรมการผู้จัดการ GENCO เปิดเผยกับ"อินโฟเควสท์"ว่า ปลายสัปดาห์หน้าจะประชุมร่วมกับผู้บริหารท่าเรือเอกชนที่มาบตาพุดในรายละเอียดเกี่ยวกับราคาและปริมาณจัดเก็บน้ำมันจากเรือขึ้นมาบำบัด เบื้องต้นคาดว่าปริมาณเฉลี่ยลำละ 5 ตันขึ้นกับขนาดของเรือ โดยเรือที่เข้า-ออกท่าเรือแห่งนี้มีประมาณ 160-170 เที่ยว
"GENCO พร้อมจะรับบำบัดได้ทันทีเพราะจะสร้าง station ที่ท่าเรือและก็ขนถ่ายเข้าที่ศูนย์ที่มาบตาพุดได้เลยเพียงแต่เราต้องมีพื้นที่ก็เริ่มได้ทันทีเพราะในอดีตเราก็ทำอยู่แล้ว ตรงนี้จะเป็นตัวหนึ่งที่น่าจะสร้างรายได้ให้กับบริษัทในปี 52 และอนาคต" นายสมยศ กล่าว
นอกจากนั้น ในปีหน้าบริษัทก็จะเริ่มโครงการจัดตั้งแทงก์ฟาร์มหรือสถานที่สำหรับเก็บน้ำมันเพิ่มขึ้น เพราะมองว่างานบริการรับกำจัดกากอุตสาหกรรมมีแนวโน้มลดลง จากผลกระทบภาวะเศรษฐกิจชะลอตัว ทำให้ปริมาณกากที่จะเข้ามาบำบัดลดลงไปด้วยเช่นกัน จึงจำเป็นต้องหาธุรกิจอื่นเข้ามาเสริม
ส่วนธุรกิจขยะรีไซเคิลอิเล็กทรอนิกส์ที่คาดว่าจะเริ่มดำเนินการได้ต้นปี 52 นั้น ขณะนี้ได้ตัดสินใจที่จะชะลอออกไปก่อนเพราะมีคู่แข่งค่อนข้างมาก ส่วนการกำจัดกากติดเชื้อในโรงพยาบาลขณะนี้ยังไม่ได้ข้อสรุป โดยอยู่ระหว่างรวบรวมข้อมูลและประเมินปริมาณกาก คาดว่าไตรมาสแรกปี 52 น่าจะชัดเจนมากขึ้น
"ขยะรีไซเคิลตอนนี้ยังไม่ได้ตัดสินใจ ชะลอไว้ก่อน แต่ก็ยังไม่ได้ทิ้ง ช่วงนี้ก็ไปดูงานในต่างประเทศในเรื่องนี้อยู่" นายสมยศ กล่าว
*คาดปีหน้ารายได้ทรงตัว ลุ้นปีนี้มีกำไร
นายสมยศ กล่าวว่า บริษัทมองว่าหากสามารถทำรายได้รวมในปีหน้าให้ได้เท่ากับปีนี้ก็ถือว่าเก่งแล้ว เพราะธุรกิจได้รับผลกระทบจากการชะลอตัวของเศรษฐกิจที่มีต่อภาคอุตสาหกรรม โดยในปีนี้(51)คาดว่ารายได้รวมก็จะลดลงประมาณ 10-15 % จากปีก่อน เพราะแนวโน้มกากบำบัดไม่ค่อยจะไหลเข้ามา
"ผู้ประกอบการเลือกที่จะเก็บ ๆ ไว้ก่อน เพราะเป็นค่าใช้จ่าย แต่เราก็พยายามที่จะเอาออกมาให้ได้เร่งกันเต็มที่ตอนนี้ทำงานหนักหน่อย"นายสมยศ กล่าว
อนึ่ง งวด 9 เดือน บริษัทมีรายได้ค่าบริการอยู่ที่ 322.5 ล้านบาท ลดลงจากงวดเดียวกันปีก่อน
อย่างไรก็ตาม ผลประกอบการปีนี้คงจะเป็นกำไรสุทธิอยู่ที่จะมากหรือน้อยเท่านั้น ณ ปัจจุบัน ตั้งแต่ต้นปีถึงเดือนพ.ย.คาดว่ากำไรจะอยู่ที่ 25-26 ล้านบาทแล้ว จากในงวด 9 เดือน สิ้นสุดก.ย.51 มีกำไรสุทธิที่ 24.8 ล้านบาท ดังนั้นจึงเชื่อว่าทั้งปีก็น่าจะเป็นกำไร
"รายได้รวมในปีหน้าภาวนาขอให้เท่ากับปีนี้ก็โอเคแล้ว โดยปีนี้ยอดขายคาดว่าจะต่ำกว่าปีก่อน (50) ที่อยู่ที่ 559 ล้านบาท จากงวด 9 เดือนยังไม่ถึง 400 ล้านบาทดี"นายสมยศ กล่าว
นอกจากนี้ ในปีหน้าบริษัทจะเน้นปรับกลยุทธ์ในเรื่องการลดค่าใช้จ่าย ลดต้นทุน เพิ่มประสิทธิภาพการทำงานที่มีอยู่ เร่งเรื่องการทำการตลาดมากขึ้น เพิ่มส่วนแบ่งการตลาด เพิ่มปริมาณกากให้มากขึ้น ปรับกลยุทธ์เรื่องราคาให้คำปรึกษากับลูกค้า เน้นเรื่องการขนส่ง ให้ความเชื่อมั่นกับลูกค้า ซึ่งตอนนี้ลูกค้าคอร์ปอเรทก็ยังอยู่กับเรา รวมทั้งเพิ่มหลุมฝังกลบขยะชุมชนให้มากขึ้น