ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (22 ธ.ค.) เนื่องจากนักลงทุนตื่นตระหนกต่อข่าวการปรับลดคาดการณ์ยอดขายของบริษัท โตโยต้า มอเตอร์ และบริษัท วอลกรีน ซึ่งเป็นบริษัทเวชภัณฑ์
สำนักข่าวเอพีรายงานว่า ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดลบ 59.34 จุด หรือ 0.69% แตะที่ 8,519.77 จุด ขณะที่ดัชนี S&P 500 ปิดลดลง 16.25 จุด หรือ 1.83% แตะที่ 871.63 จุด และดัชนี Nasdaq ปิดลบ 31.97 จุด หรือ 2.04% แตะ 1,532.35 จุด
ปริมาณการซื้อขายในตลาดหุ้นนิวยอร์กมีอยู่เพียง 1.22 พันล้านหุ้น มีจำนวนหุ้นลบมากกว่าหุ้นบวกในอัตราส่วน 2 ต่อ 1 ส่วนปริมาณการซื้อขายในตลาด Nasdaq มีอยู่ราว 1.66 พันล้านหุ้น
คิม คอจเฮย์ นักวิเคราะห์จากบริษัท ฟอร์ทพิทท์ แคปิตอล กรุ๊ป กล่าวว่า นักลงทุนตื่นตระหนกกับข่าวที่ว่าบริษัท โตโยต้า ซึ่งเป็นค่ายรถยนต์ยักษ์ใหญ่ของญี่ปุ่นปรับคาดการณ์ผลประกอบการปีนี้สิ้นสุดในเดือนมี.ค. ปีหน้า โดยคาดว่าจะขาดทุนเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่บริษัทเริ่มรายงานผลประกอบการมาตั้งแต่ปีพ.ศ. 2484 หรือในรอบ 67 ปี ซึ่งได้กำไรมาโดยตลอด อันเป็นสัญญาณบ่งบอกชัดเจนว่าค่ายรถยนต์ที่แข็งแกร่งที่สุดแห่งหนึ่งของโลก ไม่สามารถรอดพ้นจากภาวะถดถอยของเศรษฐกิจโลก
คัตซูอากิ วาตานาเบะ ประธานโตโยต้าเปิดเผยว่า ทางบริษัทคาดว่าผลประกอบการจากการดำเนินการเมื่อสิ้นสุดปีการเงินในเดือนมี.ค ปีหน้า จะขาดทุนอยู่ที่ 1.5 แสนล้านเยน (5.9 หมื่นล้านบาท) โดยเมื่อปีที่แล้วโตโยต้าได้กำไรอยู่ที่ 2.27 ล้านล้านเยน
อย่างไรก็ตาม โตโยต้ายังหวังว่า ผลประกอบการสุทธิโดยรวมของทั้งบริษัทจะยังสามารถทำกำไรได้อยู่บ้าง แต่ได้ปรับลดตัวเลขกำไรลงมาอยู่ที่ 5 หมื่นล้านเยน จากที่เคยคาดการณ์เอาไว้ที่ 5.5 แสนล้านเยน
ขณะที่บริษัทวอลกรีนเปิดเผยกำไรไตรมาสสี่ร่วงลง 10% เนื่องจากบริษัททุ่มเงินทุนไปกับการเปิดสาขาใหม่ๆอีกกว่า 200 สาขา อย่างไรก็ตาม บริษัทคาดว่าจะลดการขยายธุรกิจเนื่องจากเศรษฐกิจชะลอตัวลง
นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงกดดันจากข้อมูลเศรษฐกิจที่ซบเซาของสหรัฐ รวมถึงรายงานของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ที่ระบุว่า ดัชนีกิจกรรมทั่วประเทศเดือนพ.ย.อยู่ที่ระดับ -2.47 จุด ลดลงจากเดือนต.ค.ที่ -1.27 จุด เพราะได้รับผลกระทบจากตลาดแรงงานที่ซบเซาหนักขึ้น
อย่างไรก็ตาม ดัชนีดาวโจนส์ปรับตัวลงไม่มากนักเนื่องจากตลาดได้รับปัจจัยบวกจากข่าวที่ว่ารัฐบาลสหรัฐอนุมัติเงินกู้ฉุกเฉินจำนวน 1.74 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐเพื่อช่วยเหลือบริษัทรถยนต์ยักษ์ใหญ่อย่างเจนเนอรัล มอเตอร์ (จีเอ็ม) และไครสเลอร์ แอลแอลซี ให้รอดพ้นจากภาวะล้มละลาย โดยมาตรการดังกล่าวมีเป้าหมายที่จะปกป้องเศรษฐกิจไม่ให้ถดถอยรุนแรง ทั้งนี้ เงินกู้ฉุกเฉินดังกล่าวแบ่งมาจากงบประมาณในแผนกู้วิกฤตการเงินสหรัฐมูลค่า 7 แสนล้านดอลลาร์ ซึ่งจีเอ็มและไครสเลอร์จะสามารถนำเงินจำนวน 1.34 หมื่นล้านดอลลาร์มาใช้ได้ตั้งแต่เดือนนี้เละเดือนถัดไป
ทั้งนี้ หุ้นโตโยต้าร่วงลง 5.4% หุ้นวอลกรีนดิ่งลง 4.2% ส่วนหุ้นคาเตอร์พิลลาร์ร่วง 2.1% จากข่าวที่ว่าบริษัทเตรียมลดเงินเดือนพนักงานลงประมาณ 50%