บล.กิมเอ็ง(ประเทศไทย)ระบุในบทวิเคราะห์ฯแนะนำให้"ซื้อ"หุ้นธนาคารกรุงเทพ(BBL)โดยให้เหตุผลว่าดูเหมือนนักลงทุนต่างชาติได้เทขายหุ้นธนาคารขนาดใหญ่เมื่อวานนี้(23 ธ.ค.) และคาดว่าจะมีแรงขายต่อเนื่องในวันนี้(24 ธ.ค.) ซึ่งเป็นโอกาสที่นักลงทุนจะทยอยสะสมหุ้น BBL โดย BBL ปรับตัวลงกว่า 7.4% จากระดับสูงสุดของเดือนธันวาคม (74.50 บาทต่อหุ้น) และซื้อขายต่ำก่วาประมาณการมูลค่าทางบัญชีของธนาคารในปี 2009 ที่ 100.79 บาทต่อหุ้น
นักวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ทิสโก้ กล่าวว่า ปัจจัยพื้นฐานของ BBL ยังแข็งแกร่งอยู่ จึงแนะนำ"ซื้อ"โดยให้ราคาเป้าหมายไว้ที่ 79 บาท/หุ้น ซึ่งจากราคาปัจจุบันก็จะมี upside ประมาณ 14% ทั้งนี้ มองว่า BBL มีความเสี่ยงจากการเกิด NPL น้อยกว่าแบงก์อื่น ๆ และยังมีเงินกองทุนที่แข็งแกร่ง
การเติบโตของสินเชื่อของ BBL เป็นไปตามภาวะเศรษฐกิจ ซึ่งปีนี้(2551) BBL มีการเติบโตสินเชื่อที่ค่อนข้างสูง อันเนื่องมาจากความต้องการใช้เงินจากพวกสินค้าเกษตรมีค่อนข้างมากในช่วงต้นปี ทำให้ประเมินการเติบโตของสินเชื่อของ BBL ไว้ที่ 12.5% และคาดว่ากำไรสุทธิปีนี้จะอยู่ที่ 2,700 ล้านบาท
ส่วนปีหน้า(2552)คาดว่ากำไรสุทธิของ BBL จะลดลงเล็กน้อยประมาณ 3.2% จากปี 51 ซึ่งคาดว่าจะมีกำไรสุทธิจะมีอยู่ประมาณ 2,100 ล้านบาท เนื่องจากมองว่าความต้องการใช้เงินของพวกสินค้าเกษตรคงจะลดน้อยลง อันเนื่องมาจากราคาสินค้าเกษตรที่ลดลง อีกทั้งได้มีการประเมินการเติบโต GDP ของไทยในปีหน้า(2552)ไว้ที่ -0.8%
วานนี้(23 ธ.ค.)ราคาหุ้น BBL ปิดที่ 69.00 บาท ลดลง 2 บาท(-2.82%)มูลค่าซื้อขาย 320.16 ล้านบาท
เมื่อ 22 ธ.ค.51 ราคาหุ้น BBL ปิดที่ 71 บาท ลดลง 2 บาท(-2.74%)มูลค่าซื้อขาย 323.53 ล้านบาท