ตลาดหุ้นเอเชียปรับตัวลดลงเป็นวันที่ 4 ติดต่อกัน หลังราคาบ้านในสหรัฐร่วง ในขณะที่ความเชื่อมั่นในหมู่ผู้ผลิตญี่ปุ่นก็ร่วงหนักจนก่อให้เกิดกระแสความวิตกว่าเศรษฐกิจสหรัฐอาจถดถอยลงอีก
หุ้นโตโยต้า มอเตอร์ คอร์ป บริษัทผลิตยานยนต์รายใหญ่สุดของเอเชีย, บริดจ์สโตน คอร์ป บริษัทผลิตยางรถยนต์ที่มียอดขายมากสุดในโลก และ เดนโซ่ คอร์ป ร่วงลงกว่า 3% หลังจากที่ทั้งสามบริษัทปรับลดคาดการณ์ผลกำไรลงเนื่องจากมียอดขายลดลง ด้านหุ้นไฮนิกซ์ เซมิคอนดักเตอร์ อิงค์ ร่วง 4.8% หลังจากที่ทางบริษัทต้องรับเงินช่วยเหลือกว่า 8 แสนล้านวอน (590 ล้านดอลลาร์สหรัฐ) เพื่อมิให้บริษัทล้มละลาย
"เศรษฐกิจของหลายประเทศที่พัฒนาแล้วกำลังอยู่ในภาวะถดถอย ส่งผลให้อุปสงค์ลดลงทั่วโลก" ฌอน เฟนตัน จากบริษัท ทริบิกา อินเวสเมนท์ พาร์ทเนอร์ส ในซิดนีย์ กล่าว "ตอนนี้แนวโน้มเศรษฐกิจโลกยังค่อนข้างมืดมน"
สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า ณ เวลา 9.50 น.ตามเวลาโตเกียว ดัชนี MSCI Asia Pacific ปรับตัวลดลง 1.2% แตะ 86.46 จุด โดยอัตราส่วนหุ้นที่ปรับตัวลดลงกับหุ้นที่ปรับตัวสูงขึ้นอยู่ที่ 7 ต่อ 1 ในขณะที่ดัชนีนิกเกอิ 225 ลดลง 2% ส่วนดัชนีคอมโพสิตตลาดหุ้นเกาหลีใต้ ลดลง 1.8%
ดัชนี S&P/ASX 200 ของออสเตรเลีย ปรับตัวสูงขึ้น 1.2% โดยได้รับแรงหนุนจากหุ้นบีเอชฟี บิลลิตัน และ หุ้นวู้ดไซด์ ปิโตรเลียม หลังราคาน้ำมันดิบปรับตัวสูงขึ้นเป็นครั้งแรกในรอบ 3 วัน
ทั้งนี้ ตั้งแต่ต้นปีจนถึงปัจจุบัน ดัชนี MSCI Asia Pacific ปรับตัวลดลงแล้วกว่า 45% ซึ่งถือว่าย่ำแย่ที่สุดในประวัติศาสตร์ 20 ปี อันเป็นผลมาจากวิกฤตการเงินครั้งรุนแรงสุดนับตั้งแต่วิกฤตการเงินยุคทศวรรษ 1930 ที่ทำให้เศรษฐกิจทั่วโลกถดถอย