ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดร่วงลงแตะดับต่ำสุดในรอบเกือบ 3 สัปดาห์เมื่อคืนนี้ (24 ธ.ค.) โดยหุ้นกลุ่มพลังงานและกลุ่มบริษัทสร้างบ้านดิ่งลงหนักสุด เนื่องจากความกังวลที่ว่าภาวะเศรษฐกิจตกต่ำจะส่งผลกระทบต่อผลประกอบการของบริษัทเหล่านี้ด้วย
สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า ดัชนี FTSE 100 ปิดร่วงลง 39.39 จุด หรือ 0.93% แตะที่ 4,216.59 จุด หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 4,205.18-4,255.98 จุด
โรเจอร์ ไนติงเกล นักวิเคราะห์จากบริษัท พอยท์ตัน ยอร์ก ในกรุงลอนดอนกล่าวว่า ราคาน้ำมันดิบที่ร่วงลงอย่างต่อเนื่องได้ฉุดหุ้นกลุ่มพลังงานดิ่งลงอย่างหนัก โดยหุ้นรอยัล ดัทช์ เชล์ และหุ้นบีพี ซึ่งเป็นบริษัทผลิตน้ำมันรายใหญ่ของยุโรป ดิ่งลงกว่า 1% หลังจากราคาน้ำมันดิบตลาด NYMEX ร่วงลงต่ำกว่าระดับ 36 ดอลลาร์/บาร์เรล
ขณะที่หุ้นเพอร์ซิมสัน ซึ่งเป็นบริษัทรับสร้างบ้าน ดิ่งลง 4% หลังจากสถาบัน Royal Institution of Chartered Surveyors (RICS) คาดการณ์ว่า ราคาบ้านในอังกฤษมีแนวโน้มร่วงลงราว 10% ในปีหน้า เนื่องจากภาคธนาคารคุมเข้มการออกสินเชื่อ และคาดว่าตัวเลขการสร้างบ้านใหม่อาจลดลงเหลือเพียง 80,000 หลัง
ส่วนหุ้นกลุ่มเวชภัณฑ์ร่วงลง โดยหุ้นแอสตราเซเนกาดิ่งลง 3.1% หลังจากทางบริษัทเปิดเผยว่าสำนักงานอาหารและยา (FDA) ของสหรัฐ เรียกร้องข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการใช้ยาเซโรเควลที่ใช้รักษาโรคจิตเภท ขณะที่แกล็กโซสมิธไคลน์ร่วงลง 0.3% และหุ้นไชร์ดิ่งลง 1.9%
หุ้นกลุ่มธนาคารปรับตัวผันผวน โดยหุ้นธนาคาร HSBC และหุ้น HBOS ขยับขึ้นเล็กน้อย ขณะที่หุ้นธนาคารสแตนดาร์ด ชาร์เตอร์ด หุ้นธนาคารบาร์เคลย์ส หุ้นรอยัล แบงก์ ออฟ สก็อตแลนด์ และหุ้นธนาคารลอยด์ส ทีเอสบี ปรับตัวลดลง