น.ส.ณัฐรินทร์ ตาลทอง กรรมการบริหาร บล.กสิกรไทย(KSEC) กล่าวว่า ในปี 52 บริษัทตั้งเป้าเพิ่มส่วนแบ่งการตลาดเป็น 4% จากปีนี้อยู่ที่ 2.09% ซึ่งจะทำให้รายได้เติบโตขึ้นเป็นเท่าตัวเช่นกัน โดยบริษัทจะเน้นเจาะฐานลูกค้าธนาคารกสิกรไทย(KBANK)ในกลุ่มระดับบนและระดับกลาง โดยคาดว่าจะมีกลุ่มดังกล่าวเข้ามาเปิดบัญชีซื้อขายหลักทรัพย์ประมาณ 1 แสนบัญชี และแต่ละรายจะซื้อขายหุ้นประมาณ 1 ล้านบาท
"มองว่าปีหน้าดอกเบี้ยเงินฝากลดลงและพ.ร.บ.ประกันเงินฝากจะมีการยกเลิก จะทำให้มีแนวโน้มหันมาเล่นหุ้นมากขึ้นเพื่อหาผลตอบแทนจากการลงทุน"น.ส.ณัฐรินทร์ กล่าว
ปัจจุบัน บริษัทมีบัญชีลูกค้าทั้งหมด 1 หมื่นราย เป็นบัญชีที่มีคำสั่งซื้อขายสม่ำเสมอประมาณ 30%
น.ส.ณัฐรินทร์ คาดว่า ในปี 52 มูลค่าการซื้อขายเฉลี่ยต่อวันของตลาดหลักทรัพย์ไทยน่าจะอยู่ที่ 1.6 หมื่นล้านบาท ใกล้เคียงกับปีนี้ แต่คาดว่าภาพรวมธุรกิจหลักทรัพย์คงออกมาไม่ดีตามภาวะเศรษฐกิจโลก แต่เชื่อว่าบรรดาบริษัทหลักทรัพย์จะหาผลิตภัณฑ์ใหม่เพื่อมาเสริมสร้างรายได้ โดย บล.กสิกรไทยจะมีผลิตภัณฑ์ใหม่ออกมาสู่ตลาด 2 ผลิตภัณฑ์
สำหรับธุรกิจวานิชธนกิจ(IB) ขณะนี้มีลูกค้า IPO 2 ราย แต่ละบริษัทมีขนาดระดมทุนไม่ต่ำกว่า 1 พันล้านบาท ขณะนี้รอจังหวะเหมาะสมในการเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ และบริษัทได้หันมาเน้นดีลควบรวมกิจการ(M&A) ขณะนี้มี 8-9 ดีลที่จะควบรวมกิจการ ซึ่งทั้งหมดเป็นบริษัทนอกตลาดหลักทรัพย์
ส่วนการปล่อยสินเชื่อประเภท margin loan นั้น น.ส.ณัฐรินทร์ ยืนยันว่าไม่มีหนี้เสียเลย เนื่องจากบริษัทดูแลและแนะนำลูกค้าเป็นอย่างดี ปัจจุบันมีวงเงินปล่อยมาร์จิ้น 300 ล้านบาท และจะรักษาระดับไม่ให้เกิน 800 ล้านบาท