บมจ.ปตท.สำรวจและผลิตปิโตรเลียม (PTTEP) เปิดเผยงบลงทุนปี 52 ตั้งไว้ที่ประมาณ 4 แสนล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปี 51 ที่มีงบลงทุน 3 แสนล้านบาท เนื่องจากจะมีการลงทุนเพิ่มเติมแหล่ง M9 ในประเทศพม่า
ขณะเดียวกันคาดว่าในปี 52 ปริมาณขายจะเพิ่มขึ้น 4-5% จากปี 51 สาเหตุที่เติบโตไม่มาก เพราะมองว่าภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัวทำให้ความต้องการใช้ก๊าซลดลง ส่วนรายได้ขึ้นอยู่กับราคาน้ำมันแต่ก็มีแนวโน้มจะต่ำกว่าปีนี้
"ปีหน้าเราดูปริมาณขายโดยรวม ก็น่าจะสูงกว่าปีนี้ แต่ก็ไม่ได้สูงกว่ามาก มองกันประมาณ 4-5% จาก ปี 51 ที่สูงกว่าปี 50 กว่าเยอะจาก 1.8 แสนบาร์เรล มาเป็น 2.23 แสนบาร์เรล เพราะความต้องการใช้ก๊าซลดลงตามภาวะเศรษฐกิจ จีดีพีโต 2-3% แต่ยอดการใช้ก๊าซก็ยังดีมีการเติบโต ก็ถือว่าใช้ได้แล้ว ถ้าเทียบกับ sector อื่น และมีหลายปัจจัย"นายอนนต์ สิริแสงทักษิณ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร PTTEP กล่าวกับ"อินโฟเควสท์"
ส่วนในไตรมาส 4/51 คาดว่ารายได้และกำไรสุทธิจะต่ำกว่าไตรมาส 3/51 เนื่องจากราคาน้ำมันปรับตัวลงมา แต่จะสูงกว่าไตรมาส 4/50 เพราะมีวอลุ่มขายมากกว่า และทั้งปี 51 ปริมาณขายทั้งปีน่าจะใกล้เคียงกับเป้าหมายที่วางไว้ 2.23 แสนบาร์เรล รวมทั้งยอดขายและกำไรก็ใกล้คียงกับเป้า
อย่างไรก็ตาม ทั้งปี 51 ปริมาณขายมีอัตราการเติบโตสูงเทียบกับปี 50 เพราะมีโครงการอาทิตย์ ซึ่งเป็นโครงการใหญ่สามารถผลิตในเชิงพาณิชย์เข้ามาเต็มปี แต่ในปี 52 ขึ้นอยู่กับความต้องการใช้ก๊าซจริงที่เพิ่มขึ้น
นายอนนต์ ยอมรับว่า รายได้ในปีหน้ายังประเมินยากขึ้นอยู่กับราคาน้ำมัน แต่เชื่อว่าปริมาณขายเพิ่มขึ้นมาชดเชย แต่จะชดเชยได้ทั้งหมดหรือไม่ยังประเมินยาก แต่เชื่อว่าราคาน้ำมันคงไม่พุ่งสูงถึง 150 เหรียญ/บาร์เรลเช่นในปีนี้ และหากราคาน้ำมันต่ำก็ย่อมส่งผลกระทบต่อรายได้บริษัท เพราะโครงสร้างรายได้บริษัทมาจากยอดขายปิโตรเลียม 30% ถ้าราคาน้ำมันต่ำกว่าปีที่แล้วก็ย่อมกระทบรายได้ตามสัดส่วน แม้ว่าราคาก๊าซจะไม่กระทบมาก
“ยอดขายขึ้นกับราคาน้ำมัน แต่ไม่มีใครเดาออก...โครงสร้างรายได้เราที่เป็นน้ำมัน 30% กระทบ(ผลประกอบการ)แน่ แต่ก๊าซอาจจะไม่ได้กระทบ"นายอนนต์ กล่าว
สำหรับราคาก๊าซไม่ได้ปรับขึ้นหรือลงในทันที เพราะบริษัททำสัญญาซื้อขายก๊าซในระยะยาว บางสัญญากำหนดระยะเวลาเป็นปี หรือ 3-6 เดือน โดยมีสัญญาซื้อขายที่มีสูตรคิดราคาซื้อขายไว้อยู่แล้ว
นายอนนต์ กล่าวว่า ในไตรมาส 4/51 รายได้และกำไรสุทธิจะต่ำกว่าไตรมาส 3/51 ที่มีรายได้รวม 42,434 ล้านบาท กำไรสุทธิ 12,984 ล้านบาท เพราะราคาน้ำมันลดลงมากกว่า แต่เมื่อเทียบกีบไตรมาส 4/50 จะมีผลประกอบการดีกว่า เพราะมีปริมาณขายสูงกว่า
"ผลประกอบการในไตรมาส 4 ถ้าเทียบกับไตรมาส 3 แน่นอนผลประกอบการลดลง เพราะไตรมาส 3 ราคาน้ำมันยังสูงอยู่ แต่ถ้าเทียบกับไตรมาส 4 ปีที่แล้วก็ดีกว่า เพราะได้วอลุ่มมาช่วย" นายอนนต์ กล่าว
ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร PTTEP กล่าวว่า บริษัทตั้งงบลงทุนปี 52 ประมาณ 4 แสนล้านบาท เพิ่มจากปี 51 ที่มีงบลงทุน 3 แสนล้านบาท โดยโครงการใหญ่ที่ลงทุนได้แก่ แหล่ง M9 โดยงบลงทุนดังกล่าว ยังไม่รวมการลงทุนในออสเตรเลียที่จะมีการลงทุนนำน้ำมันขึ้นมาในปีหน้า
"จะเห็นได้ว่าแผนที่บริษัททำเพื่อรองรับในอนาคตข้างหน้า ไม่ได้มีโครงการไหนที่เรายกเลิกไป เป็นการลงทุนต่อเนื่องจากปีที่แล้ว โครงการหลักๆเรายังเดินหน้าอยู่ ส่วนใหญ่เป็นโครงการที่เอาก๊าซขึ้นมาใช้ในประเทศ" นายอนนต์ กล่าว
เมื่อ 23 ธ.ค.51 บริษัท PTTEP Australia Browse Basin Pty Ltd (ปตท.สผ.ถือสัดส่วนทั้งสิ้น 100%) ได้ลงนามสัญญาซื้อหุ้นทั้งหมดของ บริษัท Coogee Resources Limited หรือ CRL มูลค่าการซื้อขายประมาณ 170 ล้านเหรียญสหรัฐฯ นายอนนต์ กล่าวว่า การดำเนินการโอนหุ้นเสร็จต้นปี 52 และ ระหว่างนี้กำลังจัดทำแผนการลงทุน ซึ่งบริษัทดังกล่าวมีปริมาณน้ำมันอยู่แล้ว