ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นเมื่อคืนนี้ (31 ธ.ค.) ซึ่งเป็นวันซื้อขายวันสุดท้ายของปี 2551 เนื่องจากนักลงทุนขานรับความเคลื่อนไหวล่าสุดของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในการกระตุ้นเศรษฐกิจ อีกทั้งตัวเลขผู้ขอรับสวัสดิการคนว่างงานในรอบสัปดาห์น้อยเกินคาด
สำนักข่าวเอพีรายงานว่า ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดพุ่ง 108.00 จุด หรือ 1.25% แตะที่ 8,776.39 จุด ขณะที่ดัชนี S&P 500 ปิดบวก 12.61 จุด หรือ 1.42% แตะที่ 903.25 จุด และดัชนี Nasdaq ปิดบวก 26.33 จุด หรือ 1.70% แตะที่ 1,577.03 จุด
หุ้นสหรัฐทะยานสูงสุดในรอบสองสัปดาห์เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา หลังจากที่กระทรวงการคลังสหรัฐตัดสินใจเข้าพยุงกิจการบริษัท จีแม็ก แอลแอลซี (GMAC) ซึ่งเป็นบริษัทสินเชื่อเพื่อรถยนต์ในเครือเจนเนอรัล มอเตอร์ส (จีเอ็ม) เป็นเงินราว 6 พันล้านดอลลาร์ และหุ้นได้เดินหน้าต่อในวันพุธ หลังจากที่เฟดประกาศว่าจะซื้อตราสารหนี้อสังหาริมทรัพย์ (Mortgage-Backed Securities - MBS) มูลค่า 5 แสนล้านดอลลาร์ภายในกลางปีหน้า
นอกจากนี้ บรรยากาศความเชื่อมั่นในการซื้อขายของนักลงทุนยังได้รับปัจจัยสนับสนุน หลังจากกระทรวงแรงงานสหรัฐรายงานจำนวนคนว่างงานที่ขอรับสวัสดิการจากรัฐบาล ณ วันที่ 27 ธ.ค. ลดลง 94,000 เหลือ 492,000 ซึ่งเป็นตัวเลขที่ลดลงเยอะกว่าที่ตลาดคาดการณ์เอาไว้มาก และเป็นตัวเลขที่ต่ำที่สุดนับตั้งแต่สัปดาห์ที่ 1 พ.ย.
อย่างไรก็ดี ปริมาณการซื้อขายในตลาดหุ้นนิวยอร์กเบาบางที่ 1.31 หันล้านหุ้น เนื่องจากบรรดาเทรดเดอร์หยุดซื้อขายเพื่อไปท่องเที่ยวพักผ่อนช่วงหยุดยาวปีใหม่ หรือไม่ก็ปิดพอร์ทการลงทุนประจำปี 2551 โดยนักวิเคราะห์กล่าวว่า นักลงทุนหลายรายรอเข้ามาซื้อขายเมื่อเปิดตลาดปี 2552 แม้ว่าจะยังไม่มั่นใจว่าตลาดหุ้นวอลล์สตรีทจะฟื้นตัวจากปีที่ย่ำแย่อันเนื่องมากจากเศรษฐกิจอันเลวร้ายในปีนี้หรือไม่
สตีเวน โกลด์แมน นักวิเคราะห์จากวีเดน แอนด์ โค กล่าวว่า ปริมาณที่เบาบางและความรู้สึกโล่งอกที่ปีนี้ได้ผ่านพ้นไปแล้วเป็นปัจจัยบวกช่วยให้ตลาดเดินหน้าขึ้น
ทั้งนี้ วอลล์สตรีทปี 2551 ถือเป็นปีที่เลวร้ายที่สุดในรอบศตวรรษ โดยดัชนีดาวโจนส์ดิ่งลง 33.8% ในปีนี้ ดัชนี S&P 500 ดิ่งลง 38.5% และ Nasdaq ทรุดฮวบลง 40.5%