นายวันชาติ มานะธรรมสมบัติ แกนนำชาวบ้านที่ได้รับผลกระทบด้านเสียงจากการเปิดใช้ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ เปิดเผยว่า ชาวบ้านที่ได้รับความเดือนร้อนกว่า 1,000 คนจะรวมตัวชุมนุมบริเวณชั้น 4 ประตู 4 อาคารผู้โดยสารท่าอากาศยานสุวรรณภูมิในวันที่ 18 ม.ค.นี้ เนื่องจากไม่พอใจการทำงานที่ล่าช้าของบมจ. ท่าอากาศยานไทย (AOT) หรือ ทอท.จนปัจจุบันชาวบ้านส่วนใหญ่ที่อาศัยอยู่ในเส้นเสียงมากกว่า 40 NEF ยังไม่ได้รับความช่วยเหลือแต่อย่างใด
อย่างไรก็ตาม การชุมนุมดังกล่าวจะไม่มีการปิดถนนในท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ เป็นเพียงการชุมนุมเพื่อเรียกร้องให้ผู้ที่เกี่ยวข้องมาตอบคำถาม และรับทราบความเดือดร้อนของชาวบ้าน
นายวันชาติ กล่าวว่า ที่ผ่านมา ทอท.ได้ว่าจ้างบริษัทที่ปรึกษาเพื่อประเมินมูลค่าทรัพย์สินโดยในสัญญาระบุว่าภายใน 105 วัน หรือประมาณเดือน ธ.ค.51 จะดำเนินการแล้วเสร็จ แต่จากการประสานกับเจ้าหน้าที่ ทอท.ระบุว่าการประเมินมูลค่าทรัพย์สินจะแล้วเสร็จในเดือน ก.พ.52 และระหว่างนี้ชาวบ้านก็ต้องแบกรับความเดือนร้อนจากปัญหาเสียงต่อไป
"ชาวบ้านที่อาศัยอยู่ในแนวเส้นทางมากกว่า 40 NEF มีจำนวน 776 หลังคาเรือน และมีความต้องการขายสิ่งปลูกสร้าง 154 หลังคาเรือน แต่จนถึงปัจจุบันยังไม่สามารถดำเนินการซื้อขายได้ เพราะต้องรอการประเมินมูลค่าทรัพย์สิน และที่ผ่านมาเจ้าหน้าที่ ทอท.ก็เหมือนว่าจะยึดเวลาออกไปอีก จนชาวบ้านไม่รู้ว่าจะได้รับความช่วยเหลือเมื่อใด เพราะการแก้ปัญหาไม่คืบหน้า แต่ดำเนินการเหมือนพายเรือในอ่าง"นายวันชาติ กล่าว
นอกจากนั้น ทอท.ได้แจ้งข่าวว่าได้จ่ายเงินชดเชยช่วยเหลือผู้ที่ได้รับผลกระทบด้านเสียงแล้วเป็นเงินประมาณ 600 ล้านบาท แต่ข้อเท็จจริงคือมีชาวบ้านที่ได้รับความช่วยเหลือไม่ถึง 10% เพราะเงินชดเชยส่วนใหญ่ช่วยเหลือสำหรับวัด โรงเรียน ขณะที่ชาวบ้านยังคงรอรับความช่วยเหลืออยู่
นายวันชาติ ยังกล่าวอีกว่า ในอนาคตเพื่อเป็นการเร่งรัดติดตามความคืบหน้าการให้ความช่วยเหลือผู้ที่ได้รับผลกระทบด้านเสียง ชาวบ้านที่ได้รับความเดือนร้อนจะนัดชุมนุมที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิทุกวันอาทิตย์ของสัปดาห์ที่ 2 และ 4 ทุกเดือน ขณะเดียวกันในวันที่ 19 ม.ค.นี้ ตนจะเสนอความคืบหน้าในการชุมนุมดังกล่าวให้ที่ประชุมคณะกรรมการร่วม 3 ฝ่าย เพื่อพิจารณาแก้ปัญหาผลกระทบด้านเสียงจากการเปิดใช้ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ หรือคณะกรรมการไตรภาคี รับทราบด้วย
ด้านนายสมชัย สวัสดีผล รองกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ สายงานวิศวกรรมและเทคโนโลยีสารสนเทศ ทอท. กล่าวว่า ขณะนี้ ทอท.ประเมินราคาสิ่งปลูกสร้างที่อยู่ในแนวเส้นเสียงมากกว่า 40 NEF แล้ว 101 หลังคาเรือน โดยอยู่ระหว่างรองบประมาณเพื่อซื้อสิ่งปลูกสร้างดังกล่าว ซึ่งขั้นตอนการของบประมาณมีความล่าช้าเล็กน้อย เนื่องจากมีการเปลี่ยนรัฐบาล
ทั้งนี้ ทอท. เตรียมที่จะเสนอครม.อนุมัติงบประมาณเพื่อนำมาใช้ในการช่วยเหลือผู้ที่ได้รับผลกระทบด้านเสียงเป็นจำนวน 11,233 ล้านบาท โดยจะแบ่งดำเนินการ 3 ปี และหลังจากครม.อนุมัติก็พร้อมจ่ายเงินช่วยเหลือสำหรับสิ่งปลูกสร้างที่ประเมินราคาและตกลงราคาไว้แล้วทันที ส่วนสิ่งปลูกสร้างที่อยู่ระหว่างการประเมินราคาก็จะเร่งรัดให้ประเมินให้แล้วเสร็จโดยเร็ว