ดัชนีนิกเกอิตลาดหุ้นโตเกียวปิดตลาดภาคเช้าร่วงลงกว่า 200 จุดในวันนี้ เนื่องจากนักลงทุนวิตกกังวลเรื่องตัวเลขจ้างงานภาคเอกชนในสหรัฐ จนบดบังข่าวที่บารัค โอบามา ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐ เสนอใช้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ
สำนักข่าวเกียวโดรายงานว่า ดัชนีนิกเกอิปิดตลาดภาคเช้าร่วงลง 212.50 จุด หรือ 2.30% แตะที่ 9,026.74 จุด
โบรกเกอร์กล่าวว่า บรรยากาศการซื้อขายในตลาดหุ้นโตเกียวเช้านี้เต็มไปด้วยความตื่นตระหนก หลังจาก ADP Employer Services เปิดเผยว่า ภาคเอกชนของสหรัฐลดการจ้างงานลง 693,000 ตำแหน่งในเดือนธ.ค. เมื่อเทียบกับเดือนพ.ย.ที่ลดลง 476,000 ตำแหน่ง และมากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้
นักลงทุนจับตาดูตัวเลขจ้างงานนอกภาคการเกษตร (non farm payroll) ประจำเดือนธ.ค.ซึ่งกระทรวงแรงงานสหรัฐจะเปิดเผยในคืนวันศุกร์ โดยเจพีมอร์แกน คาดว่า ตัวเลขจ้างงานเดือนดังกล่าวจะร่วงลง 500,000 ราย ซึ่งจะทำให้ตัวเลขจ้างงานตลอดปี 2551 ลดลงสู่ระดับ 2.4 ล้านคน ซึ่งเป็นการปรับตัวลงรุนแรงที่สุดในรอบกว่า 60 ปี และคาดว่าอัตราว่างงานเดือนธ.ค.จะพุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบ 15 ปี
ตัวเลขจ้างงานภาคเอกชนที่ร่วงลงอย่างหนักยังเป็นหนึ่งในปัจจัยที่ฉุดดัชนีดาวโจนส์ดิ่งลง 245.40 จุด หรือ 2.72% ปิดที่ 8,769.70 จุดเมื่อคืนนี้ด้วย
ทั้งนี้ ราคาหุ้นร่วงลงทั่วทั้งกระดานในช่วงเช้านี้ โดยหุ้นกลุ่มเหมือง ขนส่งทางเรือ และอุปกรณ์อิเล็กทรอนิก ดิ่งลงหนักสุด ซึ่งหุ้นกลุ่มเหมืองได้รับแรงกดดันจากการที่บริษัท อัลโค อิงค์ ผู้ผลิตอลูมิเนียมรายใหญ่สุดของโลก ประกาศลดกำลังการผลิตเป็นครั้งที่ 3 และเตรียมปลดแรงงานทั่วโลก 13,500 คน หลังอุปสงค์และราคาอลูมิเนียมร่วงลงอย่างหนัก