NWR คาดงานเหมืองแม่เมาะเซ็นปีนี้หนุนรายได้แตะ 4พันลบ.หางานใหม่ 3พันลบ.

ข่าวหุ้น-การเงิน Thursday January 8, 2009 10:49 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายวัชรพัธ วัชราภัย ผู้จัดการทั่วไป แผนกธุรกิจใหม่และวางแผนกลยุทธ์ บมจ.เนาวรัตน์พัฒนาการ (NWR) คาดว่า บริษัทจะได้เซ็นสัญญางานเหมืองแม่เหมาะของการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย(กฟผ.)ในช่วงกลางปี 52 หลังเลื่อนมาราว 1 ปีจากที่ชนะประมูลมาตั้งแต่ปี 50 ซึ่งจะเริ่มรับรู้รายได้ส่วนหนึ่งในปีนี้ และทยอยรับรู้ฯไปอีก 9 ปี

สำหรับแผนงานในปี 52 บริษัทมีเป้าหมายจะต้องหางานใหม่เข้ามาเพิ่มให้ได้อย่างน้อย 3 พันล้านบาท เพื่อรักษาระดับรายได้ในแต่ละปีให้ได้ไม่ต่ำกว่า 4 พันล้านบาท ซึ่งรายได้ในปีนี้คงไม่ต้องเป็นห่วงแล้วเนื่องจากมีงานในมือแล้วกว่า 3 พันล้านบาท แต่ในด้านผลกำไรคงจะหวังเพียงแค่เท่าทุน

ขณะที่ปี 51 ยอมรับว่ารายได้น่าจะพลาดเป้าหมาย 4 พันล้านบาท เนื่องจากช่วงก่อนหน้านั้นบริษัทประมูลงานใหม่ได้เพียง 2.8 พันล้านบาทเท่านั้น คาดว่ารายได้รวมน่าจะใกล้เคียงปี 50 ที่ 3,856 ล้านบาท จึงโอนเป้ารายได้ 4 พันล้านบาทมาในปีนี้แทน โดยขณะนี้บริษัทมีงานในมือ(Backlog)1.2 หมื่นล้านบาท ซึ่งรวมมูลค่างานเหมืองแม่เมาะมูลค่า 9 พันล้านบาท ส่วนที่เหลือเป็นงานทั่วไปที่คาดว่าจะรับรู้รายได้ราว 70% ในปีนี้

ส่วนงานหน้าดินเหมืองแม่เมาะ จะช่วยสนับสนุนในการสร้างรายได้ให้กับบริษัทอย่างเต็มที่ในปี 53 เพราะเป็นงานที่ใช้เวลานาน โดยจะรับรู้รายได้เข้ามาราว 500-600 ล้านบาทในปีนี้ แต่ในปีถัดไปจะทยอยรับรู้ฯ ปีละ 1 พันล้านบาทจนครบระยะเวลา 9 ปี

นายวัชรพัธ ยอมรับว่า การหางานใหม่เข้ามาให้ได้ถึง3 พันล้านบาทในปีนี้ค่อนข้างลำบาก เพราะกว่างบประมาณของภาครัฐบาลจะออกมาใช้จ่ายเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจคงจะไปเห็นความชัดเจนของโครงการในช่วงกลางปี 52 อาจต้องใช้เวลา 1-2 ปีถึงจะเริ่มทำโครงการ แม้จะเชื่อว่ารัฐบาลชุดนี้จะให้ความสำคัญในการลงทุนเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ

บริษัทจะหันมาเน้นรับงานขนาดใหญ่ มูลค่า 500 ล้านบาทขึ้นไปให้มากขึ้น ส่วนงานขนาดเล็กก็จะยังรับบ้าง แต่คงน้อยลง พร้อมทั้งได้มีการปรับเพิ่มสัดส่วนงานราชการเป็นกว่า 90% จาก 70% เหตุความเสี่ยงน้อยกว่าเอกชน รวมทั้งจะหันมาใช้วิธีเช่าเครื่องจักรแทนการลงทุนซื้อด้วย เพื่อให้รายจ่ายลดลง

"ปี 52 ไม่น่ากลัว แต่ไปน่ากลัวปี 53 มากกว่าในรูปของงานก่อสร้าง เพราะใช้เวลาในการรับ 1-2 ปี และกว่าจะมีงานประมูลจากภาครัฐก็คงกลางปีเพราะรัฐบาลเพิ่งจัดตั้ง แต่ยังไงก็ตามมองในแง่ดีที่มีคุณอภิสิทธิ์ เป็นนายก ซึ่งเป็นนักเศรษฐศาสตร์จะให้ความสำคัญกับการอัดฉีดการลงทุน การกระตุ้นเศรษฐกิจ ซึ่งจะส่งผลโดยตรงต่อธุรกิจก่อสร้างทันทีรวมถึงบริษัทเราด้วย"นายวัชรพัธ กล่าวกับ"อินโฟเควสท์"

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ