นายเขมทัต พลเดช ผู้ช่วยกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บมจ.อสมท (MCOT)กล่าวกับ“อินโฟเควสท์"ว่า ในปี 52 บริษัทตั้งเป้าการเติบโตของรายได้ไว้เพียง 7-10% ซึ่งถือว่าเติบโตเป็นตัวเลขหลักเดียวครั้งแรกในช่วงหลายปี จากปัจจัยภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัวส่งผลต่อเม็ดเงินโฆษณาผ่านสื่อโทรทัศน์ปรับตัวลดลง
“ช่อง 9 ยังคงเติบโตได้แม้ว่ารายได้ปี 52 ตั้งเป้าโตอย่างน้อยเป็นตัวเลขหลักเดียว ซึ่งเป็นครั้งแรกในรอบหลายปี เนื่องจากมองว่าเม็ดเงินโฆษณาผ่านสื่อทีวีอาจจะติดลบ แต่เรายังโตกว่าอุตสาหกรรมโดยรวม"นายเขมทัต กล่าว
บริษัทวางกลยุทธรับมือสถานการณ์ในปีนี้ โดยจะไม่มีการปรับราคาค่าโฆษณา ยกเว้นรายการซิทคอมของเอ็กแซก 3 เรื่องที่ได้กำหนดจะขึ้นค่าโฆษณาไว้แล้ว รวมทั้งจะเน้นงานอีเว้นท์และคอนเสิร์ต เพื่อสร้างรายได้และภาพลักษณ์ของ MCOT
ทั้งนี้ ล่าสุดที่ MCOT ร่วมจัดงานพัทยา เคาท์ดาวน์ กับทางบมจ.จีเอ็มเอ็มแกรมมี่ ได้รับความสำเร็จมาก และจะร่วมจัดคอนเสิร์ต วันเดอร์ เกิร์ล จากเกาหลีในวันที่ 28 ก.พ.52 รวมทั้งจัดอีเว้นท์พิเศษต่อยอดรายการปกติของสถานี อาทิ การจัดไนน์ เอนเตอร์เทน อวอร์ด หรือ อีเว้นท์ของรายการข่าวข้นคนข่าว
ส่วนผังรายการจะมีการปรับปรุงตามกำหนดเดิมคือในช่วงกลางปี เพื่อเริ่มออกอากาศผังใหม่ในเดือนก.ค.52 แม้ว่าในช่วงนี้จะมีผู้จัดรายการจำนวนมากเข้ามาเสนอรายการใหม่ให้กับ MCOT หลังจากที่สถานีโทรทัศน์กองทัพบกช่อง 5 ได้ทำการปรับผังรายการและมีหลายรายการหลุดผังใหม่ แต่ MCOT เห็นว่าผังรายการในปัจจุบันลงตัวแล้ว จึงตัดสินใจที่จะไม่ปรับใหม่จนกว่าจะอีก 6 เดือนข้างหน้า
“ผังรายการของโมเดิร์นไนท์ลงตัวดีอยู่แล้ว และเรามีสัญญากับผู้ผลิตรายการว่า 6 เดือนจึงจะปรับผังรายการ ดังนั้นหากจะเห็นผังรายการใหม่ของเราคงเป็นช่วง ก.ค.52 ทีเดียว แม้รายการจากช่อง 5 จะไหลมาเสนอจำนวนมากเพราะรายการเดิมจากช่อง 5 หลุดผังไปเยอะ"นายเขมทัต กล่าว
รายการของ MCOT มีการเปลี่ยนแปลงไม่มากนัก อาทิ รายการการ์ตูนใหม่วันจันทร์-ศุกร์จากค่ายจ๊ะจิงจา, ซีรี่ย์ใหม่ต่อจากคลื่นฝันวันรักจากผู้ผลิตรายใหม่ และรายการใหม่อีก 1 รายการ คือ ปฏิบัติการณ์หนุ่มล่าฝัน ตามติดชีวิต"นิชคุณ"หนุ่มลูกไทยที่ล่าฝันการเป็นนักร้องเกาหลี ออกอากาศวันอาทิตย์ 10.00 น.และ มีการปรับรูปแบบรายการ จุดเปลี่ยน เป็นรายการ คิดข้ามเมฆ
รวมทั้งจะมีการเพิ่มรายการเรียลลิตี้ใหม่อีก 2 รายการ โดยเป็นเรียลลิตี้เกี่ยวกับธุรกิจ คือ รายการเกมส์กลยุทธ์ และเรียลลิตี้เกี่ยวกับ ครอบครัวและเด็ก โดยในปีนี้เริ่มออกอากาศรายการเรียลริตี้ที่กำหนดไว้ในตารางปกติในเดือนก.พ.52 คือ รายการ"เดอะ สตาร์"ต่อด้วย"เกมส์กลยุทธ์" หลังจากนั้นจะเป็นรายการ"อะคาเดมี แฟนเทเชีย ซีซั่นที่ 6"
นายเขมทัต กล่าวว่า มั่นใจว่ารายได้จากรายการพิเศษดังกล่าวที่ร่วมกับผู้ผลิตรายอื่นๆ นั้นจะสร้างรายได้ที่ดีกว่าปี 51 แน่นอน เพราะเอเยนซี่ให้ความสนใจซื้อโฆษณาอย่างต่อเนื่อง
*รับปี 51 กำไรพลาดเป้าโต 20% แต่รายได้ยังได้ตามเป้า
นายเขมทัต กล่าวว่า สำหรับปี 51 MCOT ได้รับผลกระทบจากปัญหาความไม่สงบภายในประเทศทางด้านการเมือง รวมถึงมีหลายเหตุการณ์ที่ส่งผลกระทบต่อสถานี ทำให้กำไรสุทธิพลาดเป้าหมายจากที่ตั้งไว้ว่าจะเติบโต 20% จากปี 50 ที่มีกำไรสุทธิ 1.1 พันล้านบาท
แต่ในส่วนของรายได้ คาดว่าเติบโตได้ตามเป้าคือเติบโตไม่ต่ำกว่า 10-15% จากปี 50 ที่มีรายได้ 3.9 พันล้านบาท แม้ว่าในช่วงไตรมาส 4/51 จะออกมาไม่ดีนัก เนื่องจากมีหลายเหตุการณ์ที่เหนือความคาดหมาย และส่งผลกระทบต่อเนื่องมายังปี 52 แต่จากการที่สถานการณ์ต่าง ๆ คลี่คลายไปมากแล้ว ก็คาดว่าจะมีงานภาครัฐเข้ามาเพิ่ม
อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันโมเดิร์นไนน์ก็มุ่งเน้นงานภาคเอกชนไม่เหมือนอดีตที่พึ่งพารายได้จากภาครัฐ
นายเขมทัต กล่าวอีกว่า ฝ่ายบริหารยังคงมุ่งเน้นการสร้างรายได้ให้องค์กรและผู้ถือหุ้น โดยหลังจากมีการจ่ายปันผลระหว่างกาลครึ่งปีแรกไปแล้วที่ 0.75 บาท ก็ยังมีแผนที่จะจ่ายปันผลสำหรับผลประกอบการช่วงครึ่งปีหลังด้วย
*ไม่หวั่นเรื่องสรรหาผู้อำนวยการใหม่ มุ่งสร้างประโยชน์ผู้ถือหุ้น
นายเขมทัต กล่าวถึง การสรรหากรรมการผู้อำนวยการใหญ่คนใหม่แทนนายวสันต์ ภัยหลีกลี้ ว่าเป็นหน้าที่ของคณะกรรมการของบริษัท ซึ่งทางฝ่ายบริหารยังคงเดินหน้าในการทำงานเป็นปกติ แม้ว่าตำแหน่งผู้อำนวยการใหญ่ว่างลงและยังอยู่ระหว่างการสรรหา ส่วนการเปลี่ยนรัฐบาลใหม่ยังคงไม่มีการเปลี่ยนแปลงใน MCOT และไม่มีการมอบนโยบายใหม่ใดๆ จากรัฐบาล