นายทองมา วิจิตรพงศ์พันธุ์ ประธานกรรมการและกรรมการผู้จัดการ บมจ.พฤกษา เรียลเอสเตท(PS)ตั้งเป้าปี 52 ทำยอดขาย 1.8 หมื่นล้านบาท สูงขึ้น 11% จากปีก่อนที่มียอดขาย 1.6 หมื่นล้านบาท และรายได้ที่ 1.7 หมื่นล้านบาท เติบโต 31% จากปีก่อนที่มีรายได้ 1.3 หมื่นล้านบาท
"การตั้งเป้าดังกล่าวเป็นการตั้งเป้าอย่าง conservative เพราะปัจจุบันผลกระทบไม่ว่าจะเป็นวิกฤตเศรษฐกิจ ทำให้บริษัทคงจะต้องมีการปรับแผนกลยุทธ์ กระบวนการดำเนินงานเพื่อรองรับสถานการณ์ต่างๆที่จะเกิดขึน แต่อย่างไรก็ตาม บริษัท ยังถือว่ามีความได้เปรัยบเมื่อเทียบกับคู่แข่งในเรื่องฐานะการเงินที่ยังแข็งแกร่ง และมีโรงงานผลิตชิ้นส่วนคอนกรีตเสริมเหล็กสำเร็จรูป" นายทองมา กล่าว
บริษัทยังมีแผนขยายธุรกิจไปต่างประเทศ เช่น อินเดีย จีน เวียดนาม อินโดนีเซีย ซึ่งในส่วนอินเดียคาดว่าจะเห็นการลงทุนในโครงการอสังหาริมทรัพย์ มูลค่าราว 300 ล้านบาท ในปีนี้
นายสมบูรณ์ วศินชัชวาล ผู่ช่วยกรรมการผู้จัดการ สายงานบัญชีและการเงิน กล่าวว่า บริษัทได้ตั้งบริษัทย่อย ชื่อ บริษัท พฤกษา อินเดีย จำกัด (ถือ 100%) ซึ่งได้ซื้อที่ดินในบังกะลอร์แล้ว 60-70 ไร่ เฟสแรกใช้เงินลงทุน 300 ล้านบาทลงทุนเองทั้งหมด ส่วนจะหาพันธมิตรในเฟสต่อไปหรือไม่นั้น คงอยู่ที่การเจรจา โดยมูลค่าโครงการทั้งหมดอยู่ที่ 1.2 พันล้านบาท
ขณะเดียวกัน บริษัทได้ส่งทีมการตลาดเข้าไปศึกษาตลาดอสังหาริมทรัพย์ในประเทศเวียดนามและอินโดนีเซียแล้ว ซึ่งหากมีจังหวะที่ดีก็พร้อมจะลงทุนทันที พร้อมกันนั้นบริษัทยังอยู่ระหว่างศึกษาตลาดอสังหาริมทรัพย์ในต่างจังหวัดเพื่อเพิ่มรายได้ให้กับบริษัทในอนาคต เบื้องต้นเริ่มที่ จ.ภูเก็ต และ ชลบุรี โดยระบุว่ายังอยู่ระหว่างศึกษารูปแบบโครงการที่เหมาะสม
ด้านนายประเสริฐ แต่ดุลยสาธิต กรรมการและรองกรรมการผู้จัดการ PS กล่าว่า ในปี 52 บริษัทวางแผนจะเปิดโครงการใหม่ 22 แห่ง รวมมูลค่า 1.5 หมื่นล้านบาท แบ่งเป็นโครงการทาวน์เฮ้าส์ 8 โครงการ ,บ้านเดี่ยว 11 โครงการ ,คอนโดมิเนียม 2 โครงการ และโครงการในอินเดีย 1 แห่ง
ปัจจุบัน บริษัทยังมีโครงการที่เปิดขายอยู่จำนวน 82 โครงการ มูลค่ารวม 24,536 ล้านบาท
นายประเสริฐ คาดว่าในไตรมาส 2/52 จะเห็นสัญญาณการฟื้นตัวของธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ และการกลับมาของบริโภคในการซื้อบ้าน ซึ่งจะสอดคล้องกับนโยบายของบริษัทในทยอยเปิดโครงการใหม่ในแต่ละไตรมาสที่มีทั้งโครงการบ้านเดี่ยว ทาวน์เฮ้าส์ และคอนโดมิเนียม
นอกจากนี้เชื่อว่าจะลดการถูกปฏิเสธในการขอสินเชื่อจากธนาคารลดลง 10-15% จากปี 51 ที่มีอัตราส่วนการถูกปฎิเสธ 28%
*ออกหุ้นกู้ 1.2 พันลบ.เสนอขายม.ค.นี้
นายสมบูรณ์ กล่าวว่า บริษัทเตรียมจะเสนอขายหุ้นกู้ วงเงิน 1.2-1.5 พันล่านบาท ในจำนวนนี้เป็นกรีนชู 200-500 ล้านบาท โดยคาดว่าจะสามารถเปิดจองซื้อได้ในวันที่ 26-28 ม.ค.นี้ จะนำมารองรับการลงทุนโครงการที่อินเดีย และงบก่อสร้างของบริษัท
ปัจจุบัน บริษัทมีกระแสเงินสดจำนวน 2 พันล้านบาท รวมทั้งวงเงินกู้ 5-6 พันล้านบาท ทำให้บริษัทสามารถลงทุนโครงการเพิ่มได้หากมีโอกาสหรือจังหวะที่ดี
นายสมบูรณ์ กล่าวว่า ปัจจุบัน บริษัทมีสต็อกที่ยังไม่ได้ขายและยังไม่ได้โอนจำนวน 2.3 พันล้านบาท โดยบริษัทจะลดให้เหลือ 1.5 พันล้านบาทภายในปี 52 ส่วนราคาขายต่อหน่วย มีแนวโน้มจะปรับขึ้นประมาณ 10% จากปัจจุบันราคาขายเฉลี่ย 1.5-1.6 ล้านบาท เพราะบริษัทได้หันมาสร้างโครงการในเมืองมากขึ้น ส่งผลให้จำนวนพื้นที่ขายต่อหน่วยปรับเพิ่มตามไปด้วย