ดัชนีล่วงหน้าตลาดหุ้นยุโรปปรับตัวลดลงในวันนี้จากกระแสคาดการณ์ผลประกอบการของบริษัทเอกชนที่เลวร้าย ท่ามกลางภาวะอุปสงค์สินค้าโภคภัณฑ์ตกต่ำ จนกดดันให้ราคาน้ำมันและโลหะปรับตัวลดลงตามมา
ณ เวลา 7.33 น.ตามเวลาลอนดอนในวันนี้ ดัชนี Dow Jones Euro Stoxx 50 ซึ่งเป็นดัชนีชี้วัดภาวะตลาดหุ้นในภูมิภาคยุโรปลดลง 0.9% ขณะที่ไอจี มาร์เก็ตส์คาดการณ์ว่า ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนเปิดตลาดปรับตัวลดลง 47 จุด โดยมีหุ้นบีเอชพี บิลลิตัน และริโอ ทินโต กรุ๊ป ในตลาดหุ้นออสเตรเลียดิ่งลงกว่า 5% หลังจากราคาทองแดงในตลาดลอนดอนร่วงลง 2.3%
นอกจากนี้ ดัชนี Dow Jones Stoxx 600 Index เริ่มกลับมาอยู่ในแดนลบเป็นครั้งแรกในรอบ 7 วันเมื่อวานนี้ เนื่องจากบริษัทหลายแห่งตั้งแต่อัลโค อิงค์ ไปจนถึงอินเทล คอร์ป แสดงความหวั่นวิตกต่อแนวโน้มผลกำไรของบริษัทที่เลวร้ายลงเรื่อยๆ
นักวิเคราะห์จากเอ็มเอฟ โกลบอลกล่าวว่า "ความเคลื่อนไหวที่มีขึ้นล่าสุดนั้นสะท้อนให้เห็นถึงความเป็นจริงที่ตลาดกำลังเผชิญอยู่"
โดยในปีที่ผ่านมา ดัชนี Stoxx 600 ดิ่งลงหนักสุดเป็นประวัติการณ์ 46% ขณะที่ตัวเลขขาดทุนของสถาบันการเงินกว่า 1 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐได้กัดกร่อนผลกำไรของบริษัทหลายแห่ง โดยสหรัฐ ยุโรป รวมถึงญี่ปุ่นต้องเผชิญภาวะเศรษฐกิจถดถอยเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ยุคสงครามโลกครั้งที่ 2
ทั้งนี้ นักวิเคราะห์จากโพลล์ของสำนักข่าวบลูมเบิร์กคาดการณ์ว่า วิกฤตเศรษฐกิจซบเซาอาจกดดันให้ธนาคารกลางอังกฤษลดอัตราดอกเบี้ยลงสู่ระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 1.5% จากระดับ 2% ในการประชุมวันนี้ ขณะที่ธนาคารกลางยุโรปได้ปรับลดอัตราดอกเบี้ยไปแล้วถึง 1.75% นับตั้งแต่เดือนต.ค.เป็นต้นมาอยู่ที่ระดับ 2.5%