นายประเสริฐ บุญสัมพันธ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.ปตท(PTT)เปิดเผยว่า ในสัปดาห์หน้า ปตท.จะเข้าไปเจรจากับภาครัฐและกระทรวงพลังงานเพื่อหาทางออก หลังจากรัฐบาลไม่เห็นด้วยกับการปรับขึ้นราคาจำหน่ายก๊าซ LPG และ NGV ในประเทศตามแผนงานที่กำหนดไว้เดิม
เนื่องจากที่ผ่านมา ปตท.แบกรับภาระแทนรัฐกว่า 8 พันล้านบาทจากการนำเข้าก๊าซ LPG และ NGV มาจำหน่ายในราคาต่ำกว่าตลาดโลก หากรัฐไม่มีการปรับขึ้นราคาก๊าซ LPG และ NGV เพื่อนำเงินมาชดเชยให้กับ ปตท.ในส่วนนี้ก็จะส่งผลกระทบต่อฐานะทางการเงินของบริษัทอาจทำให้ขาดสภาพคล่อง เนื่องจากบริษัทได้ประเมินว่าจะได้เงินชดเชยจำนวนดังกล่าวเข้ามาในปีนี้
ส่วนในปี 52 ปตท.ยอมรับว่า สถานการณ์ราคาน้ำมันที่อ่อนตัวลงทำให้มาร์จิ้นอ่อนตัวตามไปด้วย และปีนี้คาดว่าราคาน้ำมันตลาดโลกคงไม่ปรับตัวสูงขึ้นไปกว่านี้มาก และจะกระทบต่อผลประกอบการปี 52 ที่รายได้และกำไรจะน้อยกว่าปี 51
สำหรับสถานการณ์ราคาน้ำมันในตลาดโลกในขณะนี้ที่พลิกกลับมาร่วงลงคราวเดียวคืนวานนี้เกือบ 6 ดอลลาร์/บาร์เรล และอีก 93 เซ็นต์/บาร์เรลเมื่อคืนนี้ หลังจากราคาดีดกลับขึ้นไปเกือบ 50 ดอลลาร์/บาร์เรล ปตท.ก็ยังไม่มีแผนปรับลดราคาน้ำมันในประเทศลงตาม เนื่องจากค่าการตลาด ณ ปัจจุบันอยู่ที่ 0.50 -0.70 บาท/ลิตรถือว่าไม่สูงมาก
"ราคาน้ำมันแม้ว่าจะขึ้นไปถึง 10 เหรียญที่ผ่านมาและปตท.ปรับราคาในประเทศเพิ่มขึ้นมา และเมื่อ 1-2 วันนี้มีการอ่อนตัว 4-5 เหรียญ แต่แนวโน้ม ปตท.ยังไม่มีการพิจารณาปรับลง เพราะค่าการตลาดยังไม่สูง และความกังวลเรื่องวิกฤติน้ำมันว่าจะกลับมาราคาสูง มองว่าช่วงสั้นคงอยู่ระดับ 40 เหรียญฯไม่น่าจะเกิดวิกฤติอีกรอบ" นายประเสริฐ กล่าว