(เพิ่มเติม) PTT ประกาศตัดรายจ่าย-เพิ่มวอลุ่มขายรักษากำไรปี 52 หลังคาดรายได้หด 10%

ข่าวหุ้น-การเงิน Friday January 9, 2009 12:50 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

บมจ.ปตท.(PTT) ยอมรับว่า งบการเงินรวมในงวดไตรมาส 4/51 มีโอกาสอาจออกมาติดลบ เนื่องจากธุรกิจโรงกลั่นในเครือขาดทุนอย่างหนักจากผลกระทบความผันผวนของราคาน้ำมันในตลาดโลก แต่ผลดำเนินงานทั้งปี 51 ยังคงมีกำไร และรายได้จะเป็นไปตามเป้าหมายที่ 2.2 ล้านล้านบาท

ส่วนในปีนี้รายได้และกำไรมีแนวโน้มลดลงจากปีก่อนตามราคาน้ำมันที่ประเมินว่าเฉลี่ยน่าจะอยู่ที่ 50 ดอลลาร์/บาร์เรล ต่ำกว่าปีก่อนที่อยู่ในระดับ 80-90 ดอลลาร์/บาร์เรล โดยในส่วนรายได้ปี 52 คาดว่าจะต่ำลงประมาณ 10% จากปี 51 แต่บริษัทตั้งเป้าหมายที่จะรักษากำไรให้ใกล้เคียงกับปีก่อน ด้วยการลดรายจ่ายและการลงทุน ขณะเดียวกันก็จะเพิ่มยอดขายไปพร้อมกัน

"ปี 52 คาดว่ารายได้จะลดลงจากปี 51 ที่ 2 ล้านล้านบาท เพราะราคาขาย Product ลดลงเกือบทุกตัว แต่มีวอลุ่มใหม่เข้ามาชดเชย และกำไรจะพยายามรักษาให้ใกล้เคียงกับปี 51 ให้ได้ โดยต้องลดการลงทุนและค่าใช้จ่าย" นายประเสริฐ บุญสัมพันธ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และกรรมการผู้จัดการใหญ่ PTT กล่าว

อย่างไรก็ตาม นายประเสริฐ คาดว่า ธุรกิจในกลุ่มปตท.จะกลับฟื้นตัวทั้งธุรกิจโรงกลั่น ขุดเจาะน้ำมัน และ ธุรกิจน้ำมัน และจะกลับมาเห็นรายได้และกำไรที่ดีมากในปี 54 เหมือนในอดัต เพราะธุรกิจปิโตรเคมีก็จะผ่านพ่นช่วงขาลง

ส่วนการลงทุนปี 52 จะมีการพิจารณาอย่างรอบคอบ โดยจะไม่มีการลงทุนที่ใช้เงินจำนวนมาก แต่เป็นการลงทุนโครงการต่อเนื่องเท่านั้น รวมทั้งปรับระบบภายในองค์กร ซึ่งคาดว่าจะใช้เงินลงทุนไม่มาก นอกจากนี้การลงทุนท่อก๊าซ NGV ชะลอการลงทุน ขณะที่แผนการขยายสถานีบริการ NGV ก็คงจะมีการทบทวน โดยลดลงเหลือ 350-400 สาขา จากแผนเดิมที่จะขยายมากว่า 400 แห่ง

"ในปี 52 กลุ่มปิโตรเคมีมองว่าจะมีกำไร แม้ว่าจะอยู่ในช่วงขาลง ส่วนธุรกิจโรงกลั่น ก็จะมีกำไรหลังจากปี 51 ขาดทุน ธุรกิจขุดเจาะและสำรวจ ก็คงได้รับผลกระทบบ้างจากราคาน้ำมันที่ปรับตัวลง" นายประเสริฐ กล่าว

*รับจ่ายปันผล H2/51 ต่ำกว่า H1/51, หยุดซื้อหุ้นคืนหลังจ่ายแล้ว 4 พันลบ.

นายประเสริฐ คาดว่า การจ่ายเงินปันผลในงวดครึ่งหลังปี 51 คงจะต่ำกว่าครึ่งแรกของปี 51 ที่จ่ายไปแล้ว อัตราหุ้นละ 6 บาท/หุ้น เนื่องจากการปรับตัวของกำไรที่ลดลง แต่อย่างไรก็ตาม คงจะต้องต้องดูข้อเสนอแนะของกระทรวงการคลังที่เป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ด้วย และเชื่อว่าผู้ถือหุ้นจะเข้าใจสถานการณ์ของบริษัท

ส่วนแผนการซื้อหุ้นคืนบริษัทในเครือ ปตท. นายประเสริฐ กล่าวว่า หากดัชนีปรับตัวลดลง หลุดไปต่ำกว่า 400 จุดก็จะพิจารณาในการเข้าไปซื้อ แต่ขณะนี้หยุดไว้ก่อนหลังจากที่ได้ทยอยซื้อไปแล้วทั้งซื้อตรงในหุ้น บมจ. ไออาร์พีซี (IRPC)หรือหุ้นบริษัทอื่นในเครือที่ซื้อผ่านกองทุน โดยที่ผ่านมา ปตท.ได้เข้าไปซื้อหุ้นในเครือประมาณ 4 พันล้านบาทจากวงเงินที่เตรียมไว้ 2 หมื่นล้านบาท


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ