(เพิ่มเติม) CIGยันไม่มีกลุ่มทุนต่างชาติขอซื้อหุ้น ชิงจับมือผู้ถือหุ้นเดิมเกาะกลุ่มแน่น

ข่าวหุ้น-การเงิน Friday January 9, 2009 16:43 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายอารีย์ พุ่มเสนาะ ประธานกรรมการบริหารและกรรมการผู้จัดการ บมจ.ซี.ไอ.กรุ๊ป(CIG) เปิดเผยกับ"อินโฟเควสท์"ว่า ที่ผ่านมายังไม่มีกลุ่มใดมาติดต่อเจรจาเข้าติดต่อซื้อขายหุ้นตามที่เป็นข่าว ยังไม่รู้ว่าเป็นกลุ่มใดที่จะเข้ามาเทคโอเวอร์กิจการ แต่ได้มีการพูดคุยกับกลุ่มผู้ถือหุ้นเดิมที่คิดเป็นสัดส่วนที่ถือรวมกันกว่า 50% ว่าจะไม่มีใครขายหุ้นออกไป ทำให้คลายความวิตกกังวลในเรื่องนี้

"ไม่มีใครติดต่อผมทั้งสิ้น ไม่มีใครเลย เขา(แหล่งข่าวโบรกเกอร์)พูดเองเออเองหมด ...ผู้ถือหุ้นใหญ่ไม่มีใครขาย ถ้ามีใครขายก็ต้องมีการแจ้งตลาด แต่ผมถามก็ไม่มีใครขาย ส่วนตอนนนี้ผมยังหาอยู่ว่าเป็นใครที่จะเข้ามาซื้อ ยังไม่เจอ เมื่อเช้าก็ขอให้ทางตลาดหลักทรัพย์ช่วยหาให้อยู่เหมือนกันว่าเป็นใครที่ไหน เพราะผมก็กังวลเหมือนกันว่ามีใครมายุ่งกับหุ้นผมก็ไม่ดี"

หนังสือพิมพ์เช้านี้ รายงานข่าวโดยอ้างแหล่งข่าวว่ากลุ่มทุนต่างชาติแตะเบรกเข้าเทคโอเวอร์กิจการ CIG แบบไม่เป็นมิตร เนื่องจากที่ปรึกษาทางการเงินพบว่ากำไรส่วนใหญ่มาจากการเงินลงทุนไม่ใช่การดำเนินงานปกติ และมีหนี้สินระยะสั้นจำนวนมาก นอกจากนั้นยังพบว่าน้องสาวของผู้ถือหุ้นใหญ่เทขายหุ้นออกมาก่อนหน้านี้

"กลุ่มเพื่อนผมและของผมรวมกันเกินกว่า 50% ก็ได้มีการคุยกับเพื่อนๆให้รู้เรื่อง จับมือกันให้แน่น ก็โอเค คิดว่าคงจะทำอะไรไม่ได้ ใครทำอะไรเราก็ลำบาก ผมคุยตั้งแต่มีข่าวเมื่อ 2 วันที่แล้ว และ เมื่อเช้ามีข่าวก็คุยกันอีก ก็ไม่มีอะไร"นายอารีย์ กล่าว

อย่างไรก็ตาม ยอมรับว่า ทางบริษัทได้เคยมีเจรจากับทาง"แคร์เรียร์"ซึ่งเป็นลูกค้าหลักว่าในอนาคตอาจเปิดโอกาสให้เข้ามาร่วมทุนกัน จากปัจจุบันที่ได้ให้ความช่วยเหลือทางด้านเทคโนโลยี ให้งานบริษัท และพัฒนาสินค้าให้กับบริษัท และปีนี้บริษัทได้ออเดอร์เพิ่มจาก"แคร์เรียร์"โดยเป็นการผลิตเพื่อการส่งออก ทำให้ปีนี้บริษัทมีสัดส่วนส่งออกเพิ่มเป็๋น 30-40%

"ที่ผ่านมา เราถือว่าแคร์เรียร์เป็นพันธมิตร เขาช่วยเหลือเรามาตลอด ตอนนี้เขายังไม่มีแผนเข้ามาถือหุ้นเรา แต่ในอนาคตเขาอาจจะมาร่วมทุนกับเรา หรือเขาอาจจะมาลงทุนเครื่องจักร หรืออะไรต่างๆที่จะต้องเพิ่มเติม ถ้าจะเข้ามาก็เป็นลักษณะจอยท์เวนเจอร์มากกว่า แต่เป็นเรื่องอนาคต คือแค่ให้คำมั่นสัญญากันเฉยๆว่า ถ้าไปด้วยกันได้ดี เราก็จะไปทำด้วยกัน"ประธานกรรมการบริหาร CIG กล่าว

นายอารีย์ กล่าวว่า ในปี 52 มั่นใจว่ากำไรจะดีกว่าปี 51 เพราะบริษัทคาดว่าอัตรากำไรขั้นต้น(มาร์จิ้น)จะเพิ่มขึ้นเป็นไม่ต่ำกว่า 20% จากปี 51 ที่มีมาริ์จิ้นประมาณกว่า 10% ที่ได้รับผลดีจากราคาวัตถุดิบลดลง เช่น ทองแดงและอลูมิเนียมที่ราคาลดลงไปประมาณ 60% อย่างไรก็ดี คาดว่ารายได้ปี 52 อาจจะใกล้เคียงกับปี 51 แม้ปริมาณเพิ่มขึ้น แต่ราคาปรับลดลงไปตามราคาวัตถุดิบ

"ภาวะเศรษฐกิจปีนี้กระทบบ้าง แต่ไม่เยอะ เพราะธุรกิจผมเราทำตามออเดอร์ และบ้านเราก็ยังมีอากาศร้อนอยู่ ปีนี้ปริมาณงานไม่ได้ลดลง ราคาขายลดลงตามราคาวัตถุดิบ ราคาขายต่อหน่วยลดลง รายได้ก็อาจจะไม่เพิ่มเพราะราคาขายปรับลง แต่กำไรจะเพิ่มขึ้น" นายอารีย์ กล่าว

ขณะเดียวกัน ฐานะการเงินของบริษัทไม่มีปัญหา โดยในส่วนหนี้สินระยะสั้นไม่ได้มีจำนวนมากจนน่ากลัว และมีต้นทุนการเงินต่ำ โดยมีอัตราดอกเบี้ยอยู่ที่ 4.5% และบริษัทยังมีสภาพคล่องบางส่วนรองรับการรับงานต่อเนื่องอยู่แล้ว อย่างไรก็ตาม นายอารีย์ไม่ได้เปิดเผยว่ามีหนี้ระยะสั้นคงเหลืออยู่เท่าใด

นายอารีย์ กล่าวว่า สภาพคล่องขณะนี้ก็ยังดี และบริษัทยังมีเงินพอไปซื้อหุ้นคืนได้ วงเงินไม่เกิน 75 ล้านบาท แต่ยังไม่ระบุว่าเริ่มเมื่อไร และเงินทุนหมุนเวียนของบริษัทยังมีอยู่ โดยมีเงินจากการขายหุ้นขายหุ้นเพิ่มทุน(IPO)และมีกำไรจากส่วนต่างมูลค่าหุ้น รวมทั้งยังมีวงเงินสินเชื่อจากธนาคาร


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ