ภาวะตลาดหุ้นนิวยอร์กดาวโจนส์ปิดร่วง 143.28 จุด หลังตัวเลขจ้างงานสหรัฐทรุดหนัก

ข่าวหุ้น-การเงิน Saturday January 10, 2009 06:39 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดร่วงลงกว่า 140 จุดเมื่อคืนนี้ (8 ม.ค.) หลังจากกระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยตัวเลขจ้างงานเดือนธ.ค.ที่ทรุดตัวลงเกินคาด ซึ่งทำให้เกิดความวิตกกังวลเรื่องเศรษฐกิจถดถอยและภาวะตึงตัวในตลาดแรงงาน

สำนักข่าวเอพีรายงานว่า ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดร่วง 143.28 จุด หรือ 1.64% แตะที่ 8,599.18 จุด ขณะที่ดัชนี S&P 500 ปิดลบ 19.38 จุด หรือ 2.13% แตะที่ 890.35 จุด และดัชนี Nasdaq ปิดร่วง 45.42 จุด หรือ 2.81% แตะที่ 1,571.59 จุด

ปริมาณการซื้อขายในตลาดหุ้นนิวยอร์กมีอยู่ราว 1.16 พันล้านหุ้น มีจำนวนหุ้นลบมากกว่าหุ้นบวกในอัตราส่วน 2 ต่อ 1

สตู สวิทเซอร์ นักวิเคราะห์จากเจพีมอร์แกนกล่าวว่า "ภาวะการซื้อขายในตลาดหุ้นนิวยอร์กเต็มไปด้วยความตื่นตระหนกหลังจากสหรัฐเปิดเผยตัวเลขจ้างงานที่ทรุดตัวลงเกินความคาดหมาย ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่าเศรษฐกิจสหรัฐมีแนวโน้มถดถอยรุนแรงและยาวนานกว่าที่คาดการณ์ไว้ ตัวเลขจ้างงานที่ลดลงย่อมหมายถึงตัวเลขการใช้จ่ายผู้บริโภคที่ลดลงด้วย ซึ่งสถานการณ์ดังกล่าวจะยิ่งฉุดรั้งเศรษฐกิจให้ตกต่ำลงรวดเร็วกว่าที่คิด"

กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า ตัวเลขจ้างงานนอกภาคการเกษตร (non farm payroll) ประจำเดือนธ.ค.ปี 2551 ร่วงลง 524,000 ตำแหน่ง ส่งผลให้ตัวเลขว่างงานโดยรวมตลอดปี 2551 มีอยู่ทั้งสิ้น 2.6 ล้านตำแหน่ง ขณะที่อัตราว่างงานเดือนธ.ค.พุ่งขึ้นแตะระดับ 7.2% ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 15 ปี

ตัวเลขจ้างงานในสหรัฐทรุดตัวลงทุกภาคส่วนในระบบเศรษฐกิจ โดยในภาคอุตสาหกรรมลดการจ้างงาน 791,000 ตำแหน่งนับตั้งแต่เศรษฐกิจสหรัฐเริ่มเข้าสู่ภาวะถดถอยครั้งแรกในเดือนธ.ค.ปี 2550 ขณะที่การจ้างงานในภาคการก่อสร้างลดลง 101,000 ตำแหน่งในเดือนธ.ค. ภาคบริการ 81,000 ตำแหน่ง ภาคค้าปลีก 67,000 ตำแหน่ง และค้าส่ง 30,000 ตำแหน่ง

เจพีมอร์แกน เชส แอนด์ โค คาดการณ์ว่า ตัวเลขจ้างงานนอกภาคการเกษตรของสหรัฐประจำเดือนธ.ค.จะร่วงลง 500,000 ราย และคาดว่าอัตราว่างงานเดือนธ.ค.จะพุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบ 15 ปี เนื่องจากบริษัทรับสร้างบ้าน, บริษัทรถยนต์, ธนาคารพาณิชย์ และบริษัทค้าปลีก ได้ปลดพนักงานจำนวนมากเพราะถูกกระทบจากภาวะเศรษฐกิจถดถอย

ก่อนหน้านี้ตลาดหุ้นนิวยอร์กได้รับปัจจัยลบอยู่ก่อนแล้วจากการที่ ADP Employer Services เปิดเผยว่า ภาคเอกชนของสหรัฐลดการจ้างงานลง 693,000 ตำแหน่งในเดือนธ.ค. เมื่อเทียบกับเดือนพ.ย.ที่ลดลง 476,000 ตำแหน่ง และมากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้

บารัค โอบามา ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐ ประเมินว่า เศรษฐกิจสหรัฐจะทรุดตัวลงในระดับที่รุนแรงที่สุด ก่อนที่จะฟื้นตัวขึ้น พร้อมกับให้คำมั่นสัญญาว่าจะใช้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจที่แข็งแกร่ง โดยจะมุ่งเน้นเรื่องการรับมือกับตัวเลขว่างงาน, ภาวะตลาดสินเชื่อชะงักงัน, ราคาบ้านตกต่ำ และทุกปัจจัยที่บ่งชี้ถึงภาวะเศรษฐกิจถดถอย เพื่อให้สหรัฐสามารถกลับมาแข่งขันในตลาดโลกได้

หุ้นกลุ่มพลังงานร่วงลงหนักสุดเนื่องจากราคาน้ำมันดิบตลาด NYMEX ดิ่งลงอย่างต่อเนื่อง โดยหุ้นออคซิเดนทัล ปิโตรเลียม ดิ่งลง 4.6% หุ้นชลัมเบอร์เกอร์ร่วงลง 6.2% หลังจากบริษัทประกาศลดการจ้างงาน 5% เนื่องจากราคาน้ำมันร่วงลง

หุ้นซิตี้กรุ๊ปร่วงลง 5.7% หลังจากนายโรเบิร์ต รูบิน คณะกรรมการบริหารประกาศลาออกจากตำแหน่ง ส่วนหุ้นในกลุ่มค้าปลีกร่วงลงหลังตัวเลขจ้างงานสหรัฐร่วงรุนแรง โดยหุ้นทาร์เก็ตกรุ๊ปร่วงลง 5.7% และหุ้นเมซีดิ่งลง 5.8%


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ