นายวิสิฐ ตันติสุนทร เลขาธิการ คณะกรรมการกองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ(กบข.)เปิดเผยว่า แนวทางการลงทุนทางเลือกที่จะเพิ่มโอกาสสร้างผลตอบแทนในช่วงเศรษฐกิจผันผวนขณะนี้ กบข.ได้พิจารณาที่จะเข้าลงทุนในนิติบุคคลเอกชนต่างประเทศในสัดส่วนร้อยละ 3 ของเงินกองทุน และอสังหาริมทรัพย์ต่างประเทศในสัดส่วนประมาณร้อยละ 2.5 ซึ่งสินทรัพย์ทั้ง 2 ประเภทอยู่ระหว่างการจัดทำแผนการลงทุนระยะยาวกับบริษัทที่ปรึกษา ทั้งนี้ คาดว่าจะเริ่มลงทุนได้ประมาณไตรมาสแรกของปี 2552
และ กบข.ยังคงมองลู่ทางการลงทุนในสินทรัพย์ทางเลือกอื่นๆ เพิ่มเติม เพื่อเพิ่มโอกาสในการสร้างผลตอบแทนจากการลงทุน โดยในปี 52 ได้เตรียมที่จะลงทุนในกิจการโครงสร้างพื้นฐาน ซึ่งอยู่ระหว่างการศึกษาและคาดว่าจะพร้อมลงทุนในช่วงกลางปี 52 โดยมีเป้าหมายสัดส่วนการลงทุนที่ประมาณร้อยละ 1 ของเงินกองทุน
นอกจากนี้ ยังมีการศึกษาตราสารใหม่ ๆ ในประเทศเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการลงทุน เช่น Gold Future ซึ่งตลาดอนุพันธ์จะเริ่มเปิดให้มีการซื้อขายเป็นทางการในช่วงปี 52 นี้
สำหรับการลงทุนในตราสารทุนภายในประเทศนั้นคาดว่าจะอยู่ที่ประมาณร้อยละ 9 ของเงินกองทุน โดยจะพิจารณาลงทุนในบริษัทที่ราคาปัจจุบันลดลงต่ำกว่าปัจจัยพื้นฐาน และมีฐานะทางการเงินที่แข็งแกร่ง เช่น กลุ่มธนาคารพาณิชย์ขนาดใหญ่ กลุ่มพลังงาน บริษัทที่ให้ผลตอบแทนจากเงินปันผล ส่วนการลงทุนในตราสารทุนต่างประเทศนั้น ณ ขณะนี้ กบข. ยังไม่มีแผนที่จะเพิ่มน้ำหนักการลงทุน
นายวิสิฐ กล่าวเพิ่มเติมว่า จากแนวโน้มเศรษฐกิจที่ชะลอตัว ทำให้ กบข. ปรับแผนการลงทุนตราสารหนี้ในประเทศ โดยเพิ่มความระมัดระวังในการลงทุนตราสารหนี้ภาคเอกชนมากขึ้น และหันมาให้น้ำหนักกับการลงทุนในพันธบัตรรัฐบาลเป็นสำคัญ
จากการคาดการณ์ในปี 52 กบข.เชื่อว่าตลาดการเงินโลกจะยังคงมีความผันผวนสูงอย่างต่อเนื่องต่อไปอีกสักระยะหนึ่ง เพื่อเป็นการเตรียมความพร้อมในด้านการลงทุน กบข. จึงได้มีการเตรียมปรับแผนการลงทุน และศึกษาลู่ทางการลงทุนใหม่ๆ ทั้งในและต่างประเทศเพื่อป้องกันและลดความเสี่ยง เพื่อให้ผลตอบแทนเป็นไปตามกรอบนโยบายของคณะกรรมการการลงทุน โดยจะมุ่งเน้นการลงทุนทางเลือกทั้งในประเทศและต่างประเทศเพิ่มขึ้น