นายฉัตรชัย เทียมทอง ผู้อำนวยการฝ่ายการเงิน บมจ.บีอีซีเวิลด์(BEC) กล่าวกับ“อินโฟเควสท์"ว่า เป็นไปได้ที่กำไร BEC ในปี 51 จะเติบโตมากที่กว่า 2.7 พันล้านตามที่หลายบริษัทหลักทรัพย์คาดการณ์ไว้ โดยกำไรน่าจะเติบโตมากกว่า 20% ซึ่งสูงกว่าอัตราการเติบโตของรายได้ เป็นไปตามลักษณะปกติของบริษัท และเชื่อว่าในปี 52 อัตราการเติบโตของกำไรยังจะสูงกว่ารายได้ต่อไป
การเติบโตของรายได้จะมาจากการปรับค่าโฆษณาแฝงของบริษัท ซึ่งไม่ใช่การปรับอย่างเป็นทางการ เช่น การเพิ่มเวลาละครก่อนข่าวและหลังข่าวจาก 30 นาที เป็น 45 นาที ซึ่งทำให้ได้เวลาโฆษณาเพิ่มขึ้นและค่าโฆษณาช่วงละครยังอยู่ในระดับสูงที่สุด ส่งผลต่อรายได้ของบริษัทให้ดีขึ้น โดยบริษัทยังไม่มีแผนปรับค่าโฆษณาในระยะนี้เนื่องจากต้องรอประเมินสถานการณ์ทั้งภาวะเศรษฐกิจละคู่แข่ง
และบริษัทจะจ่ายปันผลในอัตรา 90-100% ของกำไรสุทธิเพื่อตอบแทนผู้ถือหุ้น
อนึ่ง BEC และบ.ย่อยปี 50 กำไรที่ 2.25 พันล้านบาท เทียบกับปี 49 กำไรที่ 1.64 พันล้านบาท
นายฉัตรชัย กล่าวว่า อุตสาหกรรมโทรทัศน์ปี 52 ยังมีโอกาสเติบโตได้ท่ามกลางเศรษฐกิจที่มีแนวโน้มชะลอตัวลง แต่การเลือกใช้เม็ดเงินค่าโฆษณาที่คาดว่าลดลงจะเน้นที่ความคุ้มค่ามากขึ้น จึงเชื่อว่าสถานีโทรทัศน์ที่มีกลุ่มคนดูชัดเจนอย่างช่อง 3 และช่อง 7 จะได้รับประโยชน์ ขณะที่มีผลกระทบกับผู้ผลิตรายการโทรทัศน์และสถานีโทรทัศน์บางช่อง
"มองว่าอุตสาหกรรมโทรทัศน์ยังคงเติบโตต่อเนื่องแต่เป็นการเติบโตในบางกลุ่มเท่านั้น ซึ่งในช่วงที่ผ่านมาตั้งแต่ปี 51 ยังมีเม็ดเงินโฆษณาไหลเข้าสู่สื่อโทรทัศน์ในทิศทางที่มีการเติบโตอย่างต่อเนื่องและยังเห็นทิศทางการเติบโตในปี 52 โดยเชื่อว่าสถานการณ์วิกฤตเศรษฐกิจสำหรับประเทศไทยไม่เลวร้ายเหมือนปี 40 จึงไม่คิดว่าเม็ดเงินโฆษณาจะหดตัว แต่เลือกใช้ให้คุ้มค่าขึ้น ซึ่งช่อง 3 ได้รับผลดีโดยตรง" นายฉัตรชัย กล่าว
สำหรับผังรายการในปีนี้จะยังไม่มีการปรับเปลี่ยนอีก หลังจากประกาศปรับผังรายการช่วงเวลา 18.30-20.00 น.ไปเมื่อต้นปีและเริ่มออกอากาศไปแล้ว โดยผังรายการของสถานีโทรทัศน์ช่อง 3 เน้นรายการที่ผลิตเองและมีการปรับเปลี่ยนรูปแบบให้เป็นที่ชื่นชอบกับผู้ที่ดูรายการทางช่อง 3 เน้นกลุ่มที่ชื่นชอบความบันเทิง อาทิ ละคร ที่ช่วงต้นปีมีละครที่เริ่มออกอากาศใหม่พร้อมๆกันหลายเรื่อง เช่นเดียวกับคู่แข่งในกลุ่มเป้าหมายเดียวกัน
“ช่อง 3 ไม่มีแผนปรับผัง แม้ว่าจะมีผู้ผลิตหลายรายการเข้ามาเสนองานต่อเนื่อง และคงมีโอกาสน้อยมากที่จะปรับผังเอาผู้ผลิตรายการรายใหม่ๆเข้ามาที่ช่อง 3 เพราะมีนโยบายที่จะผลิตรายการเองมากกว่าด้วย"นายฉัตรชัย กล่าว
อย่างไรก็ตาม เชื่อว่าอีกไม่นานวงการโทรทัศน์ช่องอื่น ๆ อาจมีการปรับผังรายการกันอีกครั้งหลังจากการปรับผังเมื่อต้นปีไม่ประสบความสำเร็จต้องรีบเปลี่ยนแปลง ไม่เช่นนั้นจะส่งผลกระทบต่อรายได้ และเม็ดเงินที่ผลิตรายการจะได้รับผลกระทบ โดยเฉพาะในสถานีโทรทัศน์ที่ผังรายการยังไม่ลงตัว และไม่ได้รับความนิยมเท่าที่ควร ซึ่งจะทำให้การหาโฆษณาเป็นเรื่องยาก จึงจำเป็นต้องมีการเปลี่ยนรูปแบบรายการหรือเปลี่ยนรายการ
อีกทั้งหลังจากที่สถานีโทรทัศน์กองทัพบกช่อง 5 ปรับผังก็มีผู้ผลิตรายการจำนวนมากที่ไม่ได้เวลาดังนั้น การปรับผังรายการรอบใหม่อาจจะเกิดขึ้นเร็วหรือมีการเปลี่ยนแปลงรายการในช่องอื่นๆเพื่อปรับตัวในการสร้างรายได้