สัญญาน้ำมันดิบตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลงกว่า 3 ดอลลาร์เมื่อคืนนี้ (12 ม.ค.) เนื่องจากนักลงทุนกระหน่ำขายสัญญาน้ำมันดิบอย่างหนัก อันเป็นผลมาจากความวิตกกังวลว่าผลประกอบการไตรมาสสี่ของบริษัทเอกชนที่จะเริ่มทยอยเปิดเผยในสัปดาห์นี้นั้น จะลดลงเกินความคาดหมาย
สำนักข่าวเอพีรายงานว่า สัญญาน้ำมันดิบตลาด NYMEX (New York Mercantile Exchange) ส่งมอบเดือนก.พ.ร่วงลง 3.24 ดอลลาร์ หรือ 8% ปิดที่ 37.59 ดอลลาร์/บาร์เรล
ขณะที่สัญญาน้ำมันฮีทติ้งออยล์ส่งมอบเดือนก.พ.ลดลง 2.5 เซนต์ ปิดที่ 1.4724 ดอลลาร์/แกลลอน และสัญญาน้ำมันเบนซินส่งมอบเดือนก.พ.ลดลง 2.7 เซนต์ ปิดที่ 1.0841 ดอลลาร์/แกลลอน
ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ที่ตลาด ICE กรุงลอนดอน ส่งมอบเดือนก.พ.ร่วงลง 1.51 ดอลลาร์ ปิดที่ 42.91 ดอลลาร์/บาร์เรล
ฟิล ไฟนน์ นักวิเคราะห์จากบริษัท อลารอน เทรดดิ้ง กล่าวว่า นักลงทุนวิตกกังวลเรื่องเศรษฐกิจถดถอยมากกว่าข่าวที่ว่ากลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปค) ออกมาขู่เป็นระลอกว่าจะลดกำลังการผลิตในการประชุมฉุกเฉินเดือนก.พ.นี้ อีกทั้งไม่ให้ความสนใจต่อความขัดแย้งเรื่องท่อส่งแก๊สในยุโรประหว่างรัสเซียและยูเครน และข่าวการสู้รบระหว่างอิสราเอลและกลุ่มฮามาสในปาเลสไตน์
กระทรวงพลังงานสหรัฐเปิดเผยว่า สต็อกน้ำมันดิบในรอบสัปดาห์ที่สิ้นสุด ณ วันที่ 2 ม.ค.พุ่งขึ้น 6.7 ล้านบาร์เรล แตะระดับ 325.4 ล้านบาร์เรล ซึ่งมากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะขยับขึ้นเพียง 900,000 บาร์เรล ขณะที่สต็อกน้ำมันกลั่นซึ่งรวมถึงน้ำมันดีเซลและฮีทติ้งออยล์ เพิ่มขึ้น 1.8 ล้านบาร์เรล แตะระดับ 137.8 ล้านบาร์เรล มากกว่าที่คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 1 ล้านบาร์เรล
"สต็อกน้ำมันดิบและเบนซินที่เพิ่มขึ้นเกินคาดสะท้อนให้เห็นว่า ผู้บริโภคลดการใช้พลังงานและลดการใช้จ่ายในด้านอื่นๆ โดยเฉพาะรายจ่ายที่ไม่จำเป็นต่อการดำรงชีวิตมากนัก ภาวะเศรษฐกิจถดถอยและตัวเลขจ้างงานที่พุ่งสูงขึ้นส่งผลให้นักลงทุนระมัดระวังการใช้จ่ายอย่างมาก" ไฟนน์กล่าว
บริษัทอุตสาหกรรมรายใหญ่ของโลกพากันปรับลดกำลังการผลิต รวมถึงบริษัท อัลโค อิงค์ ซึ่งเป็นผู้ผลิตอลูมิเนียมรายใหญ่สุดของโลก ที่ประกาศลดกำลังการผลิต 18% เหลือเพียง 750,000 เมตริกตันต่อปี ซึ่งจะเป็นการลดผลิตเป็นครั้งที่ 3 และเตรียมปลดพนักงานทั่วโลกลง 13,500 คน หลังอุปสงค์และราคาอลูมิเนียมลดลง
บาร์เคลย์ส แคปิตอล คาดว่าอัลโคจะต้องสูญเงินกว่า 950 ล้านดอลลาร์สำหรับการยกเครื่ององค์กรและจ่ายเงินชดเชยให้กับพนักงานที่ถูกเลิกจ้าง ซึ่งคิดเป็นสัดส่วนราว 13% ของพนักงานทั้งหมดของบริษัท ทั้งนี้ อัลโค รวมถึงคู่แข่งรายสำคัญอย่าง ริโอ ทินโต กรุ๊ป และ เซนจูรี่ อลูมินัม กำลังพยายามลดต้นทุนการผลิต เนื่องจากเศรษฐกิจโลกที่ถดถอยส่งผลให้ความต้องการอลูมิเนียมลดลงด้วย