นายสมบัติ นราวุฒิชัย เลขาธิการ สมาคมนักวิเคราะห์หลักทรัพย์ กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยในช่วงครึ่งแรกของปี 52 ยังมีความเสี่ยงจากความผันผวนที่เกิดขึ้นภายใต้การถดถอยทางเศรษฐกิจที่เกิดขึ้นเกือบทุกประเทศ ส่งผลให้ราคาหุ้นผันผวนและวูบวาบ อาจเป็นแรงกดดันที่เห็นการปรับตัวของประมาณการของแต่ละบริษัทหรือกำไรลดลง ซึ่งจะลากยาวและจะแตะจุด Bottom ในช่วงครึ่งปีแรก แต่มองว่าในช่วงครึ่งปีหลังน่าจะกลับมาฟื้นตัวขึ้นได้อย่างจริงจังและรวดเร็วจากสถานการณ์ที่ดีขึ้น
ในช่วงต้นปีนี้เห็นว่านักลงทุนไม่ควรตื่นตกใจกับการประกาศผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนในไตรมาส 4/51 ที่เชื่อว่าคงจะลดลงเมื่อเทียบกับในช่วงไตรมาส 4/50 โดยเฉพาะในกลุ่มพลังงานที่ได้รับผลกระทบอย่างมากจาก Stock loss เพราะถือเป็นภาวะปกติ และเชื่อว่าเมื่อ Balance แล้วในปี 52 กลุ่มพลังงานจะกลับมาฟื้นตัวได้ปกติ
อย่างไรก็ตาม การปรับตัวของกลุ่มพลังงานจะส่งผลให้พีอีของกลุ่มพลังงานปรับตัวเพิ่มขึ้น 0.5-1 เท่า เพราะตัวเลขเฉลี่ยของฐานกำไรลดลง
นายสมบัติ กล่าวว่า สมาคมฯ ประเมินดัชนีตลาดหุ้นไทยในปี 52 ไว้ที่ 547 จุด ซึ่งยังเป็นตัวเลขเดิม แต่เป็นการประเมินภายใต้ที่ไม่มีเหตุการณ์เข้ามากระทบหรือการถดถอยทางเศรษฐกิจอย่างรุนแรง ซึ่งการดำเนินงานของทางสมาคมฯ ก็จะเพิ่มการให้ความรู้ในบทวิเคราะห์นอกเหนือจาก CONSENSUS โดยเฉพาะตราสารใหม่ ๆ ไม่ว่าจะเป็นอนุพันธ์หุ้นหรือทองคำ
รวมทั้งการเข้าไปเกาะติดหุ้นเก็งกำไรที่อาจจะเป็นอันตรายต่อผู้ลงทุน โดยเห็นว่านักวิเคราะห์ควรจะแสดงความคิดเห็นต่อหุ้นตัวนั้นว่ามีความเสี่ยงอย่างไร รวมถึงให้พิจารณาเข้าไปถึงงบการเงิน ซึ่งเป็นหลักฐานบ่งบอกความเสี่ยงได้ เพราะอาจไม่สอดคล้องกับราคาหุ้นที่ปรับเพิ่มขึ้น เพื่อเป็นการปกป้องนักลงทุนในการลงทุนได้มากขึ้น
ส่วนการเน้นบทวิเคราะห์ยังคงให้ความสำคัญต่อเนื่องจากปีนี้ และจะมีการพานักวิเคราะห์เข้าพบปะกับองค์กรเศรษฐกิจต่างๆ อาทิ ธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.) และรัฐมนตรีด้านเศรษฐกิจ เพื่อรับทราบข้อมูลมาใช้ในการประเมินผลกระทบที่จะเกิดขึ้นกับตลาดหุ้นไทย