นายชนินท์ ว่องกุศลกิจ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.บ้านปู(BANPU)กล่าวว่า บริษัทตั้งเป้าปี 52 เพิ่มปริมาณการผลิตถ่านหิน10-12% จากปีก่อนที่ผลิตได้ราว 18.5 ล้านตัน มาเป็นประมาณ 20 ล้านตันในปีนี้ ซึ่งส่วนใหญ่มาจากเหมืองถ่านหินในอินโดนีเซีย และคาดว่ารายไดี้รวมของบริษัท เพิ่มขึ้น 10% จากปีก่อน
ขณะที่ราคาถ่านหินแม้ว่าจะได้รับผลกระทบบ้างจากราคาน้ำมันที่ปรับตัวลง แต่เชื่อว่าราคาถ่านหินไม่ปรับลดลงไปมากแล้ว โดยปีนี้ BANPU จะพยายามรักษาราคาเฉลี่ยถ่านหินให้ใกล้เคียงปีที่แล้วที่มีราคาขายเฉลี่ย 72 เหรียญ/ตัน โดยบริษัทได้ทำสัญญาขายล่วงหน้าไปแล้วมากกว่า 50% ราคาที่ 80 เหรียญ/ตัน
ทั้งนี้ มองภาพรวมราคาถ่านหินในปีนี้ไม่น่าจะได้รับผลกระทบมมาก โดยคาดราคาถ่านหินจะอยู่ประมาณ 75-80 เหรียญ/ตัน
ส่วนผลกระทบจาภาวะเศรษฐกิจไม่น่าจะมาก แต่อย่างไรก็ดี ขอใช้เวลาในการพิจารณานานกว่านี้เพื่อดูว่า ในปี 53 ภาวะเศรษฐกิจจะส่งกระทบมากน้อยแค่ไหน เพื่อนำไปประเมินแผนในปี 53(ปี 2010)
"ตอนนี้ เราขอรอดูว่าไปยาวๆกว่านี้ปี 2010 ก็คงจะดูว่าภาวะเศรษฐกิจช่วงที่ผานมาที่ได้รับผลกระทบจะกินเวลานานแค่ไหน 1 ปี 2 ปี หรือ 3 ปี"นายชนินท์ กล่าว
อย่างไรก็ตาม จากภาวะเศรษฐกิจชะลอตัวยังไม่ส่งผลกระทบที่ชัดเจนต่อคำสั่งซื้อถ่านหินของบริษัท เพราะบริษัทมีคำสั่งซื้อแน่นอนจากโรงไฟฟ้าในแถบเอเชีย และ BANPU เป็นธุรกิจระดับขนาดกลาง ซึ่งมีสัดส่วนธุรกิจถ่านหินเพียง 5% ของตลาดเอเชีย เชื่อว่าจะไม่น่าจะรับผลกระทบมาก