ตลาดหลักทรัพย์ปิดตลาดช่วงบ่ายวันนี้ที่ระดับ 433.81 จุด ลดลง 18.99 จุด(-4.19%) มูลค่าการซื้อขาย 12,905.06 ล้านบาท
การซื้อขายหุ้นวันนี้ ดัชนีหุ้นไทยแกว่งตัวในแดนลบ โดยขยับขึ้นแตะจุดสูงสุดของวันที่ระดับ 451.18 จุด ส่วนดัชนีจุดต่ำสุดของวันอยู่ที่ 433.81 จุด
ส่วนหลักทรัพย์เปลี่ยนแปลงวันนี้ เพิ่มขึ้น 55 หลักทรัพย์ ลดลง 280 หลักทรัพย์ และไม่เปลี่ยนแปลง 71 หลักทรัพย์
นายวรุตม์ ศิวะศริยานนท์ รองกรรมการผู้จัดการ ฝ่ายวิจัย บล.ฟินันซ่า กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยวันนี้ปรับตัวลงมากกว่าตลาดหุ้นอื่น ๆ ในภูมิภาคเอเชีย เนื่องจากมีความกังวลเกี่ยวกับผลประกอบการของกลุ่มปตท. และกลุ่มนี้ก็มีน้ำหนักมากในดัชนีฯ ส่วนที่ตลาดภูมิภาคปรับตัวลงก็ด้วยสาเหตุจากตัวเลขเศรษฐกิจและผลประกอบการที่เชื่อว่าก็ไม่ได้ดีไปกว่าบ้านเรา
นอกจากนี้ การประกาศผลประกอบการของสหรัฐฯทำให้เห็นว่าเศรษฐกิจของสหรัฐฯได้เข้าสู่ภาวะตกต่ำ โดยดูได้จากตัวเลขการปลดคนงานในสหรัฐฯ และทางบูมเบิร์กก็มีการปรับมุมมองเศรษฐกิจของสหรัฐฯในปีนี้ลงเป็น -1.5% จากเดิมที่เคยมอง -1% ซึ่งการปรับมุมมองลดลงนี้ก็ถือว่ามากเหมือนกัน
อย่างไรก็ดี ตลาดบ้านเรายังมีแรงหนุนจากการเมืองที่มีเสถียรภาพมากขึ้น และมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ แต่มาตรการนี้ตลาดฯก็ถือเป็นข่าวเดิม ๆ ที่ได้รับรู้ไปบ้างแล้ว
แนวโน้มการลงทุนในวันพรุ่งนี้(14 ม.ค.)นายวรุตม์ กล่าวว่า ถ้าคืนนี้ตลาดสหรัฐฯปรับตัวลงต่อ อันเนื่องมาจากเรื่องเศรษฐกิจ ก็จะทำให้ตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคปรับตัวลงต่อ และตลาดบ้านเราก็คงจะปรับตัวลงด้วย โดยมองว่าในช่วงครึ่งแรกของปีนี้(2552)ตลาดเอเชียคงจะยังอิงอยู่กับเศรษฐกิจของสหรัฐฯอยู่ แต่ในช่วงครึ่งหลังของปีนี้ก็จะแยกออกจากกัน ดังนั้น นักลงทุนระยะยาวสามารถค่อย ๆ เข้าเก็บได้ แต่ช่วงสั้นคงจะต้องตามวอลสตรีทอย่างเดียว
ทั้งนี้ ให้แนวรับไว้ที่ 400, 430 จุด แนวต้าน 445, 450 จุด
ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์ ได้แก่
PTT มูลค่าการซื้อขาย 1,388.62 ล้านบาท ปิดที่ 156.00 บาท ลดลง 12.00 บาท
PTTEP มูลค่าการซื้อขาย 1,351.41 ล้านบาท ปิดที่ 100.00 บาท ลดลง 8.00 บาท
BANPU มูลค่าการซื้อขาย 1,265.98 ล้านบาท ปิดที่ 220.00 บาท ลดลง 20.00 บาท
ITD มูลค่าการซื้อขาย 554.00 ล้านบาท ปิดที่ 2.36 บาท ลดลง 0.48 บาท
KBANK มูลค่าการซื้อขาย 513.07 ล้านบาท ปิดที่ 45.00 บาท ลดลง 1.50 บาท