ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (13 ม.ค.) เนื่องจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับผลประกอบการของบริษัทเอกชน หลังจากบริษัทเหมืองยักษ์ใหญ่ อัลโค เปิดเผยตัวเลขขาดทุนในไตรมาส 4 และบริษัทเจนเนอรัล อิเล็กทริก (จีอี) ปรับลดคาดการณ์ผลประกอบการ
สำนักข่าวเอพีรายงานว่า ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดลบ 25.41 จุด หรือ 0.30% แตะที่ 8,448.56 จุด ขณะที่ดัชนี S&P 500 ปิดบวก 1.53 จุด หรือ 0.18% แตะที่ 871.79 จุด และดัชนี Nasdaq ปิดบวก 7.67 จุด หรือ 0.50% แตะที่ 1,546.46 จุด
ปริมาณการซื้อขายในตลาดหุ้นนิวยอร์กมีอยู่ราว 1.31 พันล้านหุ้น มีจำนวนหุ้นบวกมากกว่าหุ้นลบในอัตราส่วน 1,648 ต่อ 1,434 ส่วนปริมาณการซื้อขายในตลาด Nasdaq มีอยู่ราว 2 พันล้านหุ้น
คาร์เล เบ็ค นักวิเคราะห์จากบริษัท แฮร์ริส ไฟแนนเชียล กรุ๊ป กล่าวว่า นักลงทุนส่วนใหญ่วิตกกังวลว่าภาวะเศรษฐกิจถดถอยกำลังฉุดรั้งผลประกอบการของบริษัทเอกชนและตัวเลขการใช้จ่ายผู้บริโภค โดยเฉพาะเมื่ออัลโค อิงค์ บริษัทผลิตอลูมิเนียมรายใหญ่อันดับสามของโลก เผยตัวเลขขาดทุน 1.19 พันล้านดอลลาร์ในไตรมาส 4 ปี 2551
การเปิดเผยข้อมูลดังกล่าวมีขึ้นเพียงไม่กี่วันหลังจากที่อัลโคประกาศลดกำลังการผลิต 18% เหลือเพียง 750,000 เมตริกตันต่อปี ซึ่งเป็นการลดผลิตเป็นครั้งที่ 3 และเตรียมปลดพนักงานทั่วโลกลง 13,500 คน เนื่องจากอุปสงค์และราคาอลูมิเนียมลดลงอย่างหนัก โดยการขาดทุนของอัลโคสะท้อนให้เห็นว่าตลาดหลักของอลูมิเนียมอย่างอุตสาหกรรมยานยนต์และการก่อสร้างได้รับผลกระทบอย่างหนักจากภาวะเศรษฐกิจถดถอย โดยราคาเหล็กและสินค้าโภคภัณฑ์อื่นๆ ร่วงลงอย่างหนักตั้งแต่ช่วงกลางปีที่แล้ว และนักเศรษฐศาสตร์คาดว่ากว่าราคาเหล็กจะดีดตัวก็ต้องพ้นกลางปีนี้ไปแล้ว
ขณะที่บริษัท จีอี เปิดเผยว่าผลประกอบการของบริษัทอาจออกมาต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์ในวอลล์สตรีทคาดการณ์ไว้ โดยนักวิเคราะห์มองว่าความสามารถในการทำกำไรของจีอีอาจต้องพึ่งพาผลประโยชน์ด้านภาษีในอัตราที่สูงมาก ซึ่งข่าวดังกล่าวฉุดราคาหุ้นจีอีร่วงลงกว่า 5%
นอกจากนี้ นักลงทุนจับตาดูบริษัท อินเทล ซึ่งเป็นผู้ผลิตชิพคอมพิวเตอร์ยักษ์ใหญ่ และเจเนนเทค ซึ่งเป็นบริษัทเวชภัณฑ์ ที่จะเปิดเผยผลประกอบการในสัปดาห์นี้ อีกทั้งจับตาดูข่าวที่ว่าซิตี้กรุ๊ปใกล้จะทำข้อตกลงเพื่อรวมธุรกิจสมิธ บาร์นีย์เข้ากับธุรกิจโบรกเกอร์ของมอร์แกน สแตนเลย์ ซึ่งหากสำเร็จจะทำให้เกิดบริษัทโบรกเกอร์รายย่อยที่ใหญ่ที่สุดในโลก
กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่ายอดขาดดุลการค้าเดือนพ.ย.ร่วงลงเกือบ 29% แตะระดับ 4.04 หมื่นล้านดอลลาร์ ซึ่งถือเป็นการร่วงลงครั้งใหญ่ที่สุดในรอบ 12 ปี เนื่องจากความต้องการสินค้าจากผู้บริโภคและราคาน้ำมันร่วงลงทำให้ปริมาณการนำเข้าลดลงครั้งใหญ่เป็นประวัติการณ์
ทั้งนี้ หุ้นอัลโคร่วงลง 5.1% หุ้นจีอีดิ่งลง 5.6%