นายรณกฤต สารินวงศ์ ผู้ช่วยผู้จัดการใหญ่ ฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.แอ๊ดคินซัน กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้น่าจะมีเทคนิคัลรีบาวน์เพราะหุ้นลงมาหลายวันและวันนี้เก็งเรื่องคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) จะประชุมเพื่อพิจารณาเรื่องอัตราดอกเบี้ยนโยบายซึ่งคาดว่าจะลดดอกเบี้ย จึงมองว่าน่าจะมีโอกาสรีบาวน์ได้ ขณะที่ตลาดหุ้นรอบบ้านเช้านี้ก็มีรีบาวน์
แนวรับอยู่ที่ 424 จุด แนวต้าน 440 จุด มีการรีบาวน์สั้นๆ เน้นกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ เหล็ก และรับเหมาก่อสร้างขนาดเล็ก นอกนั้นยังรีบาวน์แต่ยังคงหลึกเลี่ยงอยู่ อย่างพลังงาน แบงก์ถ้ารีบาวน์ยังแนะหลีกเลี่ยง
- ตลาดหุ้นนิวยอร์คเมื่อวานนี้(13 ม.ค.) ดัชนีดาวโจนส์ ปิดที่ 8,448.56 จุด ลดลง 25.41 จุด(-0.30%) ดัชนีเอสแอนด์พี 500 ปิดที่ 871.79 จุด เพิ่มขึ้น 1.53 จุด(+0.18%) และดัชนีแนสแด็ก ปิดที่ 1,546.46 จุด เพิ่มขึ้น 7.67 จุด (+0.50%)
- นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 1,005.21 ล้านบาทเมื่อวานนี้
- ราคาน้ำมันดิบส่งมอบเดือน ก.พ.ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการเมื่อวานนี้ที่ 37.78 ดอลลาร์/บาร์เรล เพิ่มขึ้น 0.19 ดอลลาร์
- ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.) เห็นชอบการจัดทำงบประมาณรายจ่ายเพิ่มเติมประจำปีงบประมาณ 52(งบกลางปี)วงเงินเบื้องต้น 115,000 ล้านบาท แยกเป็น 2 รายการ คือ งบประมาณเพื่อดำเนินการตามนโยบายเร่งด่วนของรัฐบาลเพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจ 96,000 ล้านบาท และงบชดเชยเงินคงคลัง 19,000 ล้านบาท
- บีโอไอผวาทุนต่างชาติวูบอีก เผยปี 51 เม็ดเงินหด 40.8% "จีน-สหรัฐถอนไปแล้วกว่า 90% เจโทรจี้รัฐเร่งฟื้นความเชื่อมั่น ยังตื่นการเมืองปิดสนามบิน ปีนี้แนวโน้มลด 10-20% ขณะที่ยอดปิดโรงงาน 2,294 แห่ง สูญ 2.6 หมื่นล้าน เลิกจ้าง 6 หมื่นราย เพิ่ม 41% กรุงเทพฯ สาหัสสุด
- รัฐบาลเดินหน้าประกาศพลังงานทดแทนเป็นวาระแห่งชาติ 16 ม.ค.นี้ พร้อมของบกองทุนน้ำมัน 280 ล้านบาท ช่วยลดภาษีสรรพสามิตรถยนต์ลง 3% ดันอี 85 ให้เกิด และทำส่วนต่างราคาน้ำมันให้ต่ำ 30% เตรียมปลดล็อกสูตรราคาไบโอดีเซลใหม่ แก้ปัญหาผู้ผลิตไปไม่รอด ส่วนบางจากเสือปืนไวลดราคาน้ำมันอี 85 ลง 4 บาท ต่อลิตรมีผล 14 ม.ค. เป็นต้นไป
- หอการค้าไทยหยันพาณิชย์ส่งออกแป้ก คาดปี 52 ติดลบ 1.6% พิษเศรษฐกิจโลกซบ แถมยังขาดดุล บัญชีเดินสะพัด ผลพวงท่องเที่ยวทรุด แนะรัฐเพิ่มงบอีกแสนล้านดันจีดีพี "อัทธ์" ชี้การค้าเจออุปสรรคเพียบ ถูกกดราคา มาตรการกีดกันพุ่ง
- นิด้า ติงมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาล โดยมองว่าหลายโครงการที่รัฐบาลนำมาใช้ยังไม่เข้ากับสถานการณ์เศรษฐกิจของประเทศในขณะนี้ ทั้งมาตรการลดหย่อนภาษีที่จะช่วยเฉพาะกลุ่มที่มีงานทำ ทำให้เป็นการช่วยเหลือที่ไม่ทั่วถึง และทำให้ประชาชนทั่วไปขาดความเชื่อมั่นในการจับจ่ายใช้สอย ส่วนการอัดฉีดเงิน 2,000 บาท แก่ข้าราชการและพนักงานบริษัทที่มีรายได้ต่ำถือว่าเป็นการแก้ปัญหาไม่ตรงจุด