นายพนม ควรสถาพร กรรมการผู้จัดการ บมจ.เอเชียกรีน เอนเนอจี(AGE)คาดว่า ในเบื้องต้นหุ้น IPO น่าจะจะเข้าตลาดได้อย่างเร็วในช่วงไตรมาส 1/52 หลังจากที่เลื่อนเข้าจดทะเบียนจากไตรมาส 3/51 เนื่องจากภาวะตลาดไม่เอื้ออำนวย โดยขณะนี้ที่ปรึกษาทางการเงินและผู้จัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่ายหุ้น ได้หารือถึงจังหวะและเวลาที่เหมาะสมในการเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์
"เดิมผมจะเข้าจดทะเบียนตั้งแต่ไตรมาส 3 ปีก่อน แต่พอเจอสภาวะผันผวนก็เลยเลื่อนไปก่อน ที่ปรึกษาแนะนำผม ผมก็ต้องเชื่อเขา แต่ส่วนตัวผมเองก็เตรียมตัวให้พร้อมเสมอ ไม่ว่าจะเป็นในเรื่องข้อมูลก็อัพเดทข้อมูล ก.ล.ต. ตลอด และหากจังหวะไหนมาก ตลาดเปิดก็จะเข้าได้ทันที" นายพนม กล่าว
ผลการดำเนินงานของบริษัทในปี 51 รายได้เติบโตกว่า 100% มาที่กว่า 2.3 พันล้านบาท จากปี 50 ที่มีรายได้ประมาณ 900 ล้านบาท และเชื่อว่าในปี 52 รายได้จะเติบโตขึ้นอย่างแน่นอน โดยตั้งเป้ารายได้เติบโต 20-30% เนื่องจากความต้องการถ่านหินปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง ไม่ว่าจะแป็นลูกค้ารายเดิม หรือ ลูกค้ารายใหม่ อีกทั้ง ความต้องการของโรงไฟฟ้าที่เกิดใหม่ก็ต้องการถ่านหินเพิ่ม
และบริษัทยังได้กลุ่มลูกค้าใหม่ เช่น กลุ่มอุตสาหกรรมอาหาร กลุ่มโรงไฟฟ้าเอกชน ซึ่งส่งผลให้ จำนวนลูกค้าของบริษัทจะเพิ่มขึ้นอีก 100 ราย จากปัจจุบันทั่มีลูกค้า 300 ราย
บริษัทได้วางแผนรองรับความต้องการที่เพิ่มขึ้น โดยนำเข้าถ่านหินเกรดบีจากประเทศอินโดนีเซียเพิ่มเป็น 1.0-1.5 ล้านตันจากปัจจุบันที่นำเข้ามาประมาณเกือบ 1 ล้านตันในปีก่อน รวมทั้งได้เพิ่มคลังสินค้า อีก 1 แห่งจากที่มีอยู่แล้ว 3 แห่ง โดยเป็นลักษณะเช่าพื้นที่ ซึ่งจะช่วยประหยัดค่าใช้จ่าย และคาดว่าจะใช้เม็ดเงินลงทุนคลังสินค้าประมาณ 10 ล้านบาท
สำหรับราคาถ่านหิน นายพนม คาดว่า ราคาถ่านหินน่าจะอยู่ที่ 60-70 เหรียญสหรัฐ/ตัน ซึ่งเป็นราคาปรับตัวตามราคาน้ำมันที่ปัจจุบันราคาเฉลี่ยที่ 50 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล ซึ่งจะทำให้ความต้องการใช้ถ่านหินอยู่ ส่วนการจะปรับราคาขายจะประเมินทุก 3 เดือน
บมจ. เอเชีย กรีน เอนเนอจี เป็นผู้นำเข้าถ่านหิน และจัดจำหน่ายถ่านหินสะอาด คุณภาพสูง จากต่างประเทศ จะเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนแก่ประชาชนทั่วไป(IPO)จำนวน 35 ล้านหุ้น และจะนำหุ้นสามัญเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ โดยมี บริษัท แอสเซท โปร แมเนจเม้นท์ จำกัด เป็นที่ปรึกษาทางการเงิน