นายบดินทร์ แสงอารยะกุล กรรมการรองผู้จัดการใหญ่ บมจ. ไพลอน (PYLON)เปิดเผยว่า ในปี 52 บริษัทวางเป้าหมายรายได้ไว้ที่ระดับ 500-700 ล้านบาท ซึ่งเป็นระดับใกล้เคียงกับที่ทำได้ในปี 51 เนื่องจากราคาเหล็กและน้ำมันที่ลดลงทำให้มูลค่าต่อโครงการลดลงไปด้วย
อย่างไรก็ตาม รายได้ในปี 51 สูงกว่าประมาณการที่วางไว้ที่ 500-550 ล้านบาทค่อนข้างมาก
PYLON มั่นใจว่าจะยังสามารถรักษาส่วนแบ่งทางการตลาดรับเหมาในงานก่อสร้างฐานรากไว้ที่ระดับ 20% ซึ่งเป็นส่วนแบ่งทางการตลาดในปัจจุบันไว้ได้ จากประสบการณ์และผลงานที่สร้างไว้เป็นจำนวนมากในตลาด แม้ว่าในปี 52 จะเป็นปีหนึ่งที่ดำเนินธุรกิจอย่างยากลำบาก
"ปัญหาเศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัวมีผลกระทบทุกภาคอุตสาหกรรม ธุรกิจก่อสร้างก็คงยากที่จะหลีกเลี่ยงได้ แต่มั่นใจว่า PYLON สามารถรับมือกับการแข่งขันที่จะเกิดขึ้นและผ่านไปได้ด้วยดี เพราะนอกจากได้ปรับตัวเพื่อรองรับความเปลี่ยนแปลงทางธุรกิจมาอย่างต่อเนื่องแล้ว ขณะนี้ยังได้ปรับแผนธุรกิจ โดยจะให้ความสำคัญกับการบุกตลาดทุกระดับ พิจารณารับงานด้วยความระมัดระวัง "นายบดินทร์ กล่าว
นอกจากนั้น การมีทีมงานวิศวกรที่มีประสบการณ์ในงานฐานรากและฐานะการเงินที่แข็งแกร่ง ทำให้บริษัทมั่นใจว่าจะสามารถบริหารต้นทุนให้เกิดประสิทธิภาพได้สูงสุดทำให้สามารถแข่งขันกับคู่แข่งได้ ประการสำคัญงานเสาเข็มเจาะเป็นงานที่ต้องใช้ความชำนาญเฉพาะทาง จึงมั่นใจว่าคุณภาพของผลงานที่ผ่านมาและการส่งมอบงานที่ตรงเวลาจะเป็นสิ่งที่ทำให้ลูกค้ามั่นใจในบริษัทฯ จนสามารถหางานได้ในทุกตลาด
นายบดินทร์ กล่าวอีกว่า แม้ว่าในปีนี้งานในภาคเอกชนจะลดลง แต่เชื่อว่าภาครัฐน่าจะเป็นตัวหลักในการขับเคลื่อนอุตสาหกรรม โดยเฉพาะอย่างยิ่งโครงการรถไฟฟ้าสายต่างๆ ซึ่งน่าจะเริ่มก่อสร้างได้ประมาณช่วงไตรมาสที่ 2-3/52 ขณะนี้โครงการรถไฟฟ้าสายสีแดงช่วงบางซื่อ- ตลิ่งชัน ได้ผู้ชนะการประมูลแล้ว
ส่วนโครงการรถไฟฟ้าสายสีม่วงช่วงบางใหญ่-บางซื่ออยู่ระหว่างการประมูล ซึ่งจะช่วยให้มีงานเข้าสู่ตลาดเพิ่มขึ้น และบริษัทฯ ก็เตรียมความพร้อมเพื่อรองรับสถานการณ์ดังกล่าวไว้แล้ว จากการการขยายพันธมิตรทางธุรกิจ เพื่อให้รับงานได้กว้างขวางขึ้น