ตลาดหลักทรัพย์ปิดตลาดช่วงเช้าวันนี้ที่ระดับ 425.20 จุด ลดลง 14.31 จุด(-3.26%) มูลค่าการซื้อขาย 4,903 ล้านบาท
การซื้อขายหุ้นช่วงเช้าวันนี้ ดัชนีเคลื่อนไหวในแดนลบตลอดช่วงเช้า โดยแตะจุดสูงสุดของช่วงเช้าที่ 430.70 จุด และทรุดตัวลงหนักแตะจุดต่ำสุดของช่วงเช้าที่ระดับ 424.16 จุด
น.ส.อาภาภรณ์ แสวงพรรค ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายวิจัยหลักทรัพย์ บล.ดีบีเอส วิคเคอร์ส (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยวันนี้ลงแรงตามตลาดต่างประเทศปัจจัยหลักยังกังวลกับผลขาดทุนของบริษัทจดทะเบียนต่างๆ และวิตกภาคธนาคารจะมี ด้อยคุณภาพ (NPL) เพิ่มขึ้นและในส่วนของฝั่งสหรัฐฯก็กลัวว่าภาคธนาคารก็อาจจะยังมีสภาพคล่องที่ตึงตัวอยู่หลังจากที่ซิตี้กรุ๊ป อิงค์บอกขายกิจการสมิธ บาร์นีย์ (บ.โบรกเกอร์ในเครือ) ให้กับมอร์แกน สแตนเลย์ 51%
ภายในประเทศ โดยหลักผู้บริโภคยังขาดความเชื่อมั่นที่จะจับจ่ายใช้สอยเพราะไม่แน่ใจว่าภาวะเศรษฐกิจจะถดถอยหรือไม่แค่ไหน และความเชื่อมั่นในเรื่องของการมีงานทำก็น้อยลง ปัจจัยเหล่านี้เป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้การบริโภคภาคเอกชนชะลอตัวมากและคงจะเห็นชัดเจนในไตรมาส 1/52
ทิศทางช่วงบ่ายสัปดาห์นี้ถ้าลงมาขนาดนี้แนวรับ 425 และ 420 จุด เป็นแนวรับช่วงสั้น และถ้าหลุด 420 จุดลงไปดูไม่ดัโอกาสที่จะลงไป 400 จุด หรือระดับต่ำกว่าก็มีมากขึ้น
ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์ ได้แก่
PTTEP มูลค่าการซื้อขาย 570.62 ล้านบาท ปิดที่ 99.50 บาท ลดลง 4.50 บาท
PTT มูลค่าการซื้อขาย 450.62 ล้านบาท ปิดที่ 151.00 บาท ลดลง 7.00 บาท
BANPU มูลค่าการซื้อขาย 375.46 ล้านบาท ปิดที่ 218.00 บาท ลดลง10.00 บาท
ADVANC มูลค่าการซื้อขาย 292.61 ล้านบาท ปิดที่ 71.50 บาท ลดลง 3.00 บาท
KBANK มูลค่าการซื้อขาย 249.53 ล้านบาท ปิดที่ 43.75 บาท ลดลง 1.75 บาท