นายโสภณ ซารัมย์ รมว.คมนาคม กล่าวยืนยันว่า บมจ.การบินไทย (THAI) ไม่ได้มีภาระขาดทุนสูงจนถึงขั้นล้มละลาและต้องให้กระทรวงการคลังเข้ามาช่วยเหลือเหมือนกับกระแสข่าวที่มีหลายฝ่ายตั้งข้อสังเกตไว้แต่อย่างใด ซึ่ง นายโสภณ เชื่อว่าหากทางการบินไทยมีการปรับปรุงแผนการดำเนินงานและตัดค่าใช้จ่ายลงแล้วก็จะดำเนินธุรกิจได้ด้วยตัวเอง โดยไม่ต้องได้รับการสนับสนุนจากหน่วยงานอื่น
"ผมขอยืนยันเลยว่าที่มีกระแสข่าวว่าการบินไทยทำท่าจะล้มละลาย และต้องขอเงินกระทรวงการคลังมากู้วิกฤตไม่เป็นความจริง แม้ว่าบริษัทจะประสบภาวะขาดทุนแต่เป็นไปในทิศทางเดียวกับธุรกิจการบินที่ได้รับผลกระทบจากวิกฤติเศรษฐกิจโลก แต่หากแผนลดค่าใช้จ่ายได้น่าจะช่วยให้การบินไทย สามารถเดินหน้าธุรกิจต่อไปได้"นายโสภณ กล่าว
รมว.คมนาคม กล่าวว่า จากการประชุมร่วมกับผู้บริหารการบินไทยในวันนี้ ทางบริษัทมีแนวโน้มจะตัดสิทธิพิเศษที่เคยให้กับผู้บริหารและพนักงาน ได้แก่ การซื้อตั๋วเครื่องบินในราคาพิเศษ สิทธิประโยชน์เกี่ยวกับภาษีที่บริษัทออกให้กับพนักงาน ซึ่งเชื่อว่าพนักงานการบินไทยจะเข้าใจกับสถานการณ์วิกฤติเศรษฐกิจโลกที่เกิดขึ้น รวมถึง วิกฤติของการบินไทยที่ประสบภาวะขาดทุนต่อเนื่อง อย่างไรก็ตาม ยืนยันว่าการใช้มาตรการดังกล่าวคงจะเป็นช่วงระยะสั้นๆ
"ในภาวะที่เกิดวิกฤติเชื่อว่า พนักงานทุกฝ่ายจะให้ความร่วมมือ ไม่มีอดีตที่มีการประท้วง และต้องมาประเมินว่าการบินไทยให้สิทธิประโยชน์ใดบ้างที่เหนือกว่ารัฐวิสาหกิจอื่น และฝ่ายบริหารของการบินไทยต้องทำเป็นตัวอย่าง" นายโสภณ กล่าว
ส่วนการปรับลดเงินเดือนของพนักงาน ทางคณะกรรมการบริษัทจะไม่มีการพิจารณาปรับลดเงินเดือนแต่อย่างใด พนักงานไม่ควรกังวล และขอให้ทำงานเต็มศักยภาพ
สำหรับกรณีที่ ครม.เศรษฐกิจขอความร่วมมือสายการบินลดตั๋วโดยสารเพื่อกระตุ้นการท่องเที่ยวไทยนั้น นายโสภณ กล่าวว่า เป็นเรื่องที่ต้องหารือกันเพื่อให้เกิดความรอบคอบ เนื่องจากธุรกิจการบินมีต้นทุนและมีการแข่งขันสูง ซึ่งโดยอำนาจรัฐมนตรีไม่สามารถสั่งให้เอกชนปรับลดได้ทันที ขณะที่การบินไทยเองก็มีผลประกอบการที่ไม่ดี ซึ่งทุกฝ่ายก็ควรคำนึงถึงวิกฤติการเงินที่อาจเกิดขึ้นกับการบินไทยได้