นายวัฒนชัย วิไลลักษณ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ. สามารถคอร์ปอเรชั่น (SAMART) คาดว่าปี 52 บริษัทจะมีรายได้ 2.3 หมื่นล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปี 51 ราว 30% รายได้ส่วนใหญ่สัดส่วน 55% มาจาก บมจ. สามารถไอ-โมบาย (SIM) ที่ตั้งเป้ารายได้ที่ 1.25 หมื่นล้านบาท จากปีก่อนที่มี 1.1 หมื่นล้านบาท , สัดส่วน 35% บมจ. สามารถเทลคอม (SAMTEL)ตั้งเป้ารายได้ปีนี้ที่ 8 พันล้านบาท จากปี 51 ที่มี 3 พันล้านบาท และที่เหลืออีก 20% เป็นรายได้จากธุรกิจเกี่ยวข้องเทคโนโลยี ที่คาดว่าจะมีรายได้ประมาณ 2.5 พันล้านบาท
"แม้ว่าปี 51 รายได้ของบริษัทจะพลาดเป้าหมายจากปัจจัยเศรษฐกิจที่ชะลอตัว ทำให้ยอดขายมือถือตกลง แต่ปี 52 เป้าหมายที่ 2.3 หมื่นล้าน เป็นการคิดแบบ conservative ซึ่งจริงๆเราตั้งเป้าในบริษัทสูงกว่านี้ เพราะเรามั่นใจในส่วน SAMTEL และปีนี้เชื่อว่า SIM จะมียอดขายที่โตขึ้น และราคาขายต่อเครื่องก็น่าจะดีขึ้นเพราะมีมือถือรุ่นใหม่ๆออกมา" นายวัฒนชัย กล่าว
ทั้งนี้ ในปี 52 สัดส่วนรายได้จาก SIM ปรับลดลงจากปี 51 ที่มีสัดส่วนถึง 70-75% เนื่องจากในปี 52 SAMTEL มีรายได้สูงขึ้นเกือบ 200% เนื่องจากมีมูลค่าคงค้างในมือสูงถึง 5 พันล้านบาท และคาดว่าจะมีงานที่รอเซ็นสัญญาในไตรมาส 1/52 อีก 7 พันล้านบาท และยังมีโครงการที่บริษัทอยู่ระหว่างรอการประมูลอีกกว่า 5 หมื่นล้านบาทซึ่งคาดหวังว่าจะได้งานไม่ต่ำกว่า 10%ของมูลค่าที่เข้าร่วมประมูล
ส่วน SIM ในปี 52 ตั้งเป้ายอดขายโทรศัพท์เคลื่อนที่ 5 ล้านเครื่อง แบ่งเป็นตลาดต่างประเทศ 2.7 ล้านเครื่อง และในประเทศ 2.3 ล้านเครื่อง โดยปีนี้ที่เน้นตลาดต่างประเทศเพราะบริษัทจะรุกตลาดที่ตลาดอินโดนีเซีย และอินเดีย ที่มีประเมินว่ายังมีความต้องการใช้โทรศัพท์มือถือสูงถึง 140 ล้านเครื่องใน 2 ประเทศ ซึ่งมีประชากรอยู่จำนวนมาก