บมจ.เอสวีไอ(SVI)หวังรักษายอดขายปีนี้ทรงตัวได้จากปีก่อนที่ 210 ล้านเหรียญสหรัฐ ท่ามกลางวิกฤติเศรษฐกิจระดับโลกที่ส่งผลกระทบต่ออุตสาหกรรมคอมพิวเตอร์และชิ้นส่วนอย่างมาก แต่ก็ยังเชื่อว่าผลกระทบที่มีต่อตลาดยุโรป ซึ่งเป็นตลาดหลัก จะไม่มากเท่ากับที่เกิดในสหรัฐ ทำให้คำสั่งซื้อที่เข้ามายังบริษัทในขณะนี้ไม่ได้ลดลงแต่อย่างใด รอประเมินสถานการณ์ครึ่งปีแรกก่อนคิดวางแผนขยายกำลังผลิตในอนาคต
"ลูกค้าในยุโรปตอนนี้ยังดีเหมือนกับช่วงไตรมาส 4 ที่ผ่านมายังไม่แตกต่าง ไม่ขึ้นไม่ลงเท่าเดิม ทำให้ปีนี้ตั้งเป้ายอดขายอยู่เท่ากับที่ 51 ที่คาดว่าจะประมาณ 210 ล้านเหรียญสหรัฐ
...ให้ได้ยอดขายเท่าปีก่อนก็ดีแล้ว คนอื่น down ประมาณ 30% ของเราเท่ากับปีที่แล้วก็ถือว่าโอเค คำสั่งซื้อของปี 52 ยังดีอยู่ไม่ถึงกับมีปัญหามากไม่ขึ้น ไม่ตก เท่าเก่า"นายโพธิ์ โล่ห์ทองคำ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร SVI กล่าวกับ"อินโฟเควสท์"
นายโพธิ์ กล่าวว่า แม้ว่าสินค้าที่ SVI ผลิตส่วนใหญ่เป็นสินค้าเฉพาะทาง(Niche Market)ซึ่งมีความจำเป็นต้องใช้ในอุตสาหกรรมส่วนใหญ่ จึงไม่น่าจะได้รับผลกระทบมากนัก แต่บริษัทยังจำเป็นต้องวางกลยุทธ์เพื่อรับมือกับสถานการณ์ในปีนี้(52)โดยเน้นการควบคุมฐานะเงินสด ไม่ปล่อยเงินหลุดออกไป เพราะหากธุรกิจเกิดปัญหา เงินสดสำคัญมาก
"ปีนี้เก็บเงินสดไว้อย่าใช้ เผื่อมีปัญหาจะได้มีเงินมาจ่ายพนักงาน แต่ที่ผ่านมายังไม่มีการเปลี่ยนแปลงอะไร ธุรกิจปกติ ไม่มีลดเงินเดือน ไม่มีไล่พนักงานออก ไม่มีอะไรเกิดขึ้น ถือว่าราบรื่น ออร์เดอร์ก็เหมือนเก่าไม่มากขึ้นแต่ก็ไม่ลดลง"นายโพธิ์ กล่าว
*อาจขยายกำลังผลิต แต่ขอประเมินสถานการณ์ก่อน
นายโพธิ์ กล่าวว่า ขณะนี้บริษัทจะยังไม่มีแผนขยายโรงงานหรือเพิ่มกำลังการผลิต เพราะต้องดูสถานการณ์เศรษฐกิจโลกในช่วงครึ่งปีแรกให้มีความชัดเจนก่อนว่าจะมีการเปลี่ยนแปลงที่รุนแรงหรือไม่ หากทุกอย่างดีขึ้นก็จะมีการวางแผนธุรกิจเพื่อเป้าหมายขยายกำลังการผลิต แต่หากเศรษฐกิจยังคงชะลอตัวต่อเนื่องก็จะยังไม่ขยาย
ปัจจุบัน SVI มีโรงงาน 3 แห่งในไทย และ มีโรงงาน SVI ในประเทศจีน ยังไม่มีการหยุดการผลิตใดๆ
ดังนั้น ช่วงนี้บริษัทจะยังไม่มีการมองหาโรงงานใหม่ และไม่มีการขยายหรือลงทุนเพิ่มเติม เพราะโรงงานที่มีอยู่ยังใช้ประโยชน์ไม่เต็มที่ ขณะที่โรงงานในจีนก็ไม่ได้มีปัญหาและกลับเข้าสู่ปกติแล้ว ตอนนี้จึงไม่มีการขยายธุรกิจไม่ต่างกับคนอื่นแต่ก็ดีที่ไม่มีการลดกำลังการผลิต ซึ่งลูกค้าก็ยังสั่งออร์เดอร์ปกติ
นายโพธิ์ กล่าวว่า ผลประกอบการทั้งปี 51 จะทำยอดขายได้เท่ากับที่ตั้งเป้าหมายไว้ในระดับ 210 ล้านเหรียญสหรัฐ แต่ในด้านกำไรสุทธิเกินกว่าเป้าหมาย จากปี 50 ที่มีกำไรสุทธิในระดับ 384 ล้านบาท "ไตรมาส 4/51 ผลประกอบการก็ยังดีอยู่ ผลงานก็โอเค ยังไม่ถึงกับมีปัญหา ยอดขายก็เป็นไปตาม seasonal ของเรา พอมาต้นปีนี้ช่วงไตรมาส 1 นี้ก็ยังดีอยู่ยังไม่ได้มีปัญหาอะไร แต่ต่อไปไม่ทราบว่าจะเกิดอะไรขึ้น แต่ดูแล้วไม่ค่อยโตเท่าไรในปีนี้" นายโพธิ์ กล่าว ตามปกติแล้วยอดขายของบริษัทจะมีช่วง high season ในไตรมาส 3 ที่จะ peak ที่สุด ส่วนไตรมาส 1 ผลประกอบการต่ำสุด ซึ่งในปีที่แล้วจะเห็นไตรมาส 3/51 ผลงานของเราสูงสุดเป็นประวัติการณ์โดยมีกำไรอยู่ที่ 205 ล้านบาท แต่ยอดขายในไตรมาส 4/51 จะน้อยกว่าไตรมาส 3/51 ตามฤดูกาล แต่ผลงานก็ยังดี ส่วนเงินบาทที่อ่อนค่าเป็นผลดีทำให้กำไรดี เพราะเงินบาทอ่อนดีสำหรับ export อยู่แล้ว อนึ่ง กลุ่ม SVI กำไรปี 50 เท่ากับ 384.02 ล้านบาท กำไรต่อหุ้น 0.26 บาท โดยยอดขายรวมทั้งปี 50 มีมูลค่า 169 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือ มีมูลค่าเท่ากับ 5,820 ล้านบาท