ภาวะตลาดหุ้นนิวยอร์ก:ดาวโจนส์ปิดบวก 68.73 จุด หลังนลท.จับตาความช่วยเหลือภาคธนาคาร

ข่าวหุ้น-การเงิน Saturday January 17, 2009 07:11 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กสามารถปิดบวกเป็นวันที่สองติดต่อกันเมื่อคืนนี้ (17 ม.ค.) เนื่องจากนักลงทุนได้เข้าช้อนซื้อหุ้นที่มีราคาถูกลงมาก และได้คลายความกังวลเกี่ยวกับภาคการเงินลงบ้าง

สำนักข่าวเอพีรายงานว่า ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดบวก 68.73 จุด หรือ 0.84% แตะที่ 8,281.22 จุด ขณะที่ดัชนี S&P 500 ปิดบวก 6.38 จุด หรือ 0.76% แตะที่ 850.12 จุด และดัชนี Nasdaq ปิดบวก 17.49 จุด หรือ 1.16% แตะที่ 1,529.33 จุด

ปริมาณการซื้อขายในตลาดหุ้นนิวยอร์กมีอยู่ราว 1.62 พันล้านหุ้น เมื่อเทียบกับวันพุธที่ 1.42 พันล้านหุ้น มีจำนวนหุ้นบวกมากกว่าหุ้นลบในอัตราส่วน 2 ต่อ 1

ทั้งนี้ นักลงทุนยังมีกำลังใจว่าภาคการเงินจะกลับมามีเสถียรภาพอีกครั้งในเร็ววัน หลังจากที่มีความเคลื่อนไหวล่าสุดเกิดขึ้นกับซิตี้กรุ๊ปและแบงก์ ออฟ อเมริกา

โดยซิตี้กรุ๊ปประกาศแยกบริษัทออกเป็น 2 ส่วน คือ ซิตี้คอร์ป และซิตี้โฮลดิงส์ ซึ่งการปรับโครงสร้างครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อช่วยฟื้นความสามารถในการทำกำไร หลังจากที่ธนาคารเผยผลขาดทุนสุทธิในไตรมาส 4 ถึง 8.29 พันล้านดอลลาร์ ซึ่งแย่กว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ และนับเป็นการขาดทุนไตรมาส 5 ติดต่อกันแล้ว

ก่อนหน้านี้ในวันเดียวกัน รัฐบาลสหรัฐอนุมัติเงินสนับสนุนอีก 2 หมื่นล้านดอลลาร์ให้กับแบงก์ ออฟ อเมริกา เพื่อช่วยธนาคารแบ่งเบาภาวะขาดทุนจากการซื้อกิจการเมอร์ริล ลินช์ แอนด์ โค

อลัน เกล นักวิเคราะห์จากริดจ์เวิร์ธ อินเวสเมนท์ กล่าวว่า นักลงทุนคลายวิตกลงได้บ้างว่าซิตี้และแบงก์ ออฟ อเมริกาจะได้รับความช่วยเหลือ แต่ขณะเดียวกันก็กลัวว่าอาจจะยังไม่เพียงพอ

อย่างไรก็ดี ท่ามกลางความไม่แน่นอนในภาคการเงินซึ่งทำให้หุ้นในกลุ้มเคลื่อนไหวผันผวน ปรากฏว่าหุ้นกลุ่มคอนซูเมอร์ อาทิ วอล-มาร์ท, แมคโดนัลด์ และพรอคเตอร์ แอนด์ แกมเบิล สามารถดึงดูดแรงซื้อของนักลงทุนได้ นอกจากนี้หุ้นกลุ่มเทคโนโลยีบางตัว ได้แก่ อินเทล และ ไมโครซอฟท์ ก็ขยับสูงขึ้นเช่นกัน หลังจากที่หุ้นเหล่านี้ถูกเทขายในช่วงสองสัปดาห์ที่ผ่านมา จนทำให้ราคาหุ้นถูกลงมาก

โดย อินเทล คอร์ป ผู้ผลิตเซมิคอนดักเตอร์รายใหญ่สุดของโลก เผยว่า ผลกำไรของบริษัทอาจกระเตื้องขึ้นหลังผ่านพ้นไตรมาสนี้ไป เนื่องจากลูกค้าเริ่มใช้สินค้าค้างสต็อกหมดบ้างแล้ว อุปสงค์คอมพิวเตอร์ที่ร่วงหนักกดดันให้อินเทลต้องลดกำลังการผลิต ส่งผลให้กำไรลดลงตามไปด้วย แต่เมื่อบริษัทผลิตคอมพิวเตอร์ใช้สต็อกสินค้าที่มีอยู่จนหมดและสั่งสินค้าใหม่เพิ่ม อินเทลก็จะสามารถเพิ่มกำลังการผลิตและทำกำไรได้มากขึ้น

หุ้นแบงก์ ออฟ อเมริกา ทรุดลง $1.14 หรือ 13.7% แตะ $7.18 ขณะที่หุ้นซิตี้ร่วง 33 เซนต์ หรือ 8.6% แตะ $3.50 นักวิเคราะห์ สตีเวน โกลด์แมน จากวีเดนแอนด์โค มองว่าการที่หุ้นแบงก์ ออฟ อเมริการ่วงลง ส่วนหนึ่งเป็นเพราะนักลงทุนกังวลว่าการยื่นมือเข้าช่วยเหลือของรัฐบาลจะกระทบต่อสัดส่วนการถือครองหุ้นของผู้ถือหุ้นของธนาคาร

หุ้นวอล-มาร์ท บวก 21 เซนต์ แตะ $51.56, หุ้นแมคโดนัลด์ ปรับตัวขึ้น $1.69 แตะ $59.67 และหุ้นพรอคเตอร์ แอนด์ แกมเบิล เพิ่มขึ้น 27 เซนต์ แตะ $57.73

หุ้นอินเทล บวก 45 เซนต์ แตะ $13.74 และ ไมโครซอฟท์ สูงขึ้น 47 เซนต์ แตะ $19.71


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ