นายสิทธิชัย ลีสวัสดิ์ตระกูล กรรมการผู้จัดการ บมจ.มิลล์คอนสตีลอินดัสทรีส์ (MILL) เปิดเผยว่า บริษัทฯได้ลงนามในบันทึกความเข้าใจ (MOU) กับพันธมิตรต่างประเทศที่เป็นผู้ประกอบธุรกิจรับเหมาก่อสร้าง ซึ่งมีโครงการกระจายอยู่ทั่วโลก เพื่อจัดส่งเหล็กเส้นเกรดพิเศษให้กับพันธมิตรเพื่อใช้ในงานก่อสร้าง ปีละประมาณ 50,000-100,000 ตัน เป็นเวลา 5 ปี โดยจะเริ่มตั้งแต่ปี 2552 เป็นต้นไป โดยการลงนามในบันทึกความเข้าใจดังกล่าวบริษัทฯ ได้ดำเนินการผ่าน บริษัท บี อาร์ พี สตีล จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทย่อย หลังจากที่ บี อาร์ พี สตีล และพันธมิตร ได้ร่วมกันพัฒนาเหล็กเส้นเกรดพิเศษดังกล่าวมานานกว่า 4 ปี จนสามารถผลิตเพื่อจำหน่ายในเชิงพาณิชย์ได้
โดยเบื้องต้นเซ็น MOU เป็นระยะเวลานาน 5 ปี ในลักษณะ Exclusive คือ เป็นซัพพลายเออร์เพียงรายเดียวในประเทศไทย เพื่อเป็นผู้ผลิตและจัดจำหน่ายเหล็กเกรดพิเศษให้กับพันธมิตรรายนี้ ซึ่งเป็นเหล็กเส้นเพื่อใช้ในโครงการก่อสร้างในต่างประเทศ และพันธมิตรมีโครงการกระจายอยู่ทั่วโลก
ดังนั้น การเซ็น MOU ครั้งนี้จึงเหมือนกับการปลดล็อกปัญหาตลาดเหล็กในประเทศชะลอตัวได้เป็นอย่างดี เพราะได้ออเดอร์ใหญ่มาแทนที่และมีปริมาณการสั่งซื้อค่อนข้างแน่นอน ประการสำคัญเหล็กชนิดนี้เป็นเหล็กเกรดพิเศษทั้งด้านราคาและมาร์จิ้น (กำไรขั้นต้น) สูงกว่าเหล็กทั่วไป ทำให้เชื่อว่าจะสามารถชดเชยรายได้จากการชะลอตัวของตลาดก่อสร้างในประเทศได้ระดับหนึ่ง
ขณะนี้บริษัทฯ เริ่มจัดส่งสินค้าป้อนให้กันพันธมิตรแล้ว โดยจะรับรู้รายได้ทันทีตั้งแต่ไตรมาส 1/2552 เป็นต้นไป ทั้งนี้การเซ็น MOU กับพันธมิตรในครั้งนี้ เป็นไปตามนโยบายของบริษัทฯ ที่ต้องการให้รายได้ของบริษัทเติบโตอย่างมั่นคงในระยะยาว เพราะการมีคำสั่งซื้อสินค้าที่ชัดเจนและแน่นอนระยะยาวอยู่ในมือทำให้บริษัทฯ สามารถลดความเสี่ยงเรื่องความไม่แน่นอนของยอดขายได้เป็นอย่างดี ซึ่งจะเป็นอีกทางหนึ่งที่ช่วยให้บริษัทฯ มีรายได้ที่มั่นคงตามนโยบายที่วางไว้
โดยในปีนี้บริษัทฯ มีเป้าหมายจะรักษารายได้ให้อยู่ในระดับใกล้เคียงกับปี 2551 ที่คาดว่าจะทำได้ 10,000 ล้านบาท เพื่อให้สอดคล้องกับสถานการณ์ในปัจจุบันที่เศรษฐกิจภายในประเทศและเศรษฐกิจโลกอยู่ในช่วงชะลอตัว ทำให้ความต้องการใช้เหล็กลดลง ประกอบกับราคาเหล็กในตลาดโลกปรับตัวลดลงในช่วงที่ผ่านมา ซึ่งจะสะท้อนให้รายได้จากการขายปรับลดลงไปตามราคาเหล็กด้วย แม้ว่าปริมาณการขายอาจจะทรงตัวก็ตาม