นายชำนิ จันทร์ฉาย กรรมการผู้จัดการ บริษัท ซี.เจ.มอร์แกน เปิดเผยว่า มีบริษัทในอุตสาหกรรมเหล็กที่เตรียมควบรวมกิจการจำนวน 3 ดีล เป็นบริษัททั้งในและนอกตลาดหลักทรัพย์ โดยซี.เจ.ฯจะเป็นที่ปรึกษาในการควบรวมกิจการ
รายแรกจะเป็นการควบรวมกิจการระหว่างผู้ผลิตเหล็กเส้นและเหล็กรูปพรรณมีมูลค่าสินทรัพย์รวมกันประมาณ 1.5 หมื่นล้านบาท และเหล็กรูปพรรณกับเหล็กรูปพรรณมูลค่ารวมกันประมาณ 1.2 หมื่นล้านบาท และอีก 1 ดีลอยู่ในอุตสาหกรรมเหล็กมีสินทรัพย์รวมกันประมาณ 1.6 หมื่นล้านบาท โดยคาดว่าจะมี 1 ดีลที่จะได้ข้อสรุปภายในปีนี้
ในส่วนของอุตสาหกรรมเหล็ก ถือว่า ขณะนี้เริ่มมีสัญญาณที่ดีหลังจากที่ราคาเริ่มปรับลดลงมาอย่างรุนแรงในช่วงปลายปี 51 พอต้นปี 52 ราคาเริ่มกลับมาดีขึ้นมาอยู่ที่ระดับ 18,000 บาทต่อตัน จากเดือนธ.ค.อยู่ที่ 14,000-15,000 บาทต่อตัน และจากการที่รัฐบาลเร่งการเบิกจ่ายและการก่อสร้างสาธารณูปโภคน่าจะช่วยให้อุตสาหกรรมเหล็กกลับมาคึกคักอีกครั้ง และหากงบฯ กลาง 1 แสนล้านบาทที่รัฐบาลอนุมัติออกมานั้น หากสภาวะเศรษฐกิจไม่ดีขึ้นก็อาจจะมีงบฯออกมาระลอกใหม่ เพราะงบฯเดิมอาจจะไม่เพียงพอ
นอกจากนี้ ทางซี.เจ.มอร์แกน ยังได้ทำหน้าที่ในการเป็นที่ปรึกษาฯให้กับผู้ส่งออกหลายรายที่กำลังประสบปัญหา ทั้งผู้ส่งออกอาหารเฟอร์นิเจอร์และอุปกรณ์กีฬา ดีลอยู่ในหลักพันล้านบาท ถือเป็นสัญญาณสภาพเศรษฐกิจที่ประสบปัญหาส่งผลต่อผู้ประกอบการและบริษัทที่จะต้องมีการปรับตัวและโครงสร้างบริษัท ส่วนบริษัทจดทะเบียนคาดว่าจะได้รับผลกระทบและต้องดูงบไตรมาส 1/52 ที่จะออกมาจึงจะประเมินได้ว่าสถานการณ์จะรุนแรงขนาดไหน