นายทรงพล บุนนาค กรรมการผู้จัดการสายปฎิบัติการและสนับสนุน บล.ไอร่า กล่าวถึงแผนเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ว่า บริษัทได้ยื่นแบบไฟลิ่งต่อสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) แล้ว คาดว่าจะผ่านการอนุมัติจากก.ล.ต.เชื่อว่าจะเข้าจดทะเบียนได้ในไตรมาส 4/52 โดยคาดว่าจะเห็นภาพเศรษฐกิจที่ดีขึ้น ซึ่งก็จะสะท้อนต่อการปรับตัวของตลาดหุ้นไทยและวอลุ่มการซื้อขายปรับขึ้นด้วย
ในปี 52 บริษัทตั้งเป้ามาร์เก็ตแชร์เพิ่มขึ้นเป็น 2% จาก 1.3-1.4% ในปี 51 โดยจะมาจากการเพิ่มจำนวนการเปิดบัญชีของลูกค้าใหม่ราว 30-40% จากปัจจุบันที่มีบัญชีลูกค้า 3,000 บัญชี และมีบัญชีที่เคลื่อนไหวสม่ำเสมอในสัดส่วน 30-40% โดยจำนวนบัญชีที่เพิ่มขึ้นน่าจะได้รับผลจากที่บริษัทมีการจัดสัมมนาและการเข้าบริหารและแก้ไขพอร์ต ซึ่งที่ผ่านมาลูกค้าส่วนใหญ่มีปัญหาในเรื่องการวิเคราะห์ข้อมูลและลงทุนในหุ้นไม่ถูกต้อง
ด้านนางนลินี งามเศรษฐมาศ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บล.ไอร่า เปิดเผยว่า บริษัทจะให้ความสำคัญกับการทำกำไรที่เติบโตต่อเนื่องจากปี 51 ซึ่งมีอัตราการเติบโตของกำไรราว 10-20% มากกว่ามุ่งเน้นในแง่ของรายได้ เนื่องจากเศรษฐกิจชะลอตัวและสภาวะตลาดหุ้นที่ยังผันผวน
สอดคล้องกับแผนของบริษัทที่จะลดสัดส่วนของรายได้ที่มาจากค่านายหน้าค้าหลักทรัพย์ลงเหลือ 50% จากปี 51 ที่มีสัดส่วน 60-70% ขณะที่จะเพิ่มรายได้ทางด้านวาณิชธนกิจ (IB) มากขึ้น ซึ่งปัจจุบันมีลูกค้า 10 กว่ารายที่เข้ามาให้บริษัทฯเป็นที่ปรึกษาให้ ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นดีลลักษณะร่วมทุน โดยตั้งเป่าในปีนี้คงจะเห็นประมาณ 4-6 ดีล ซึ่งเป็นดีลขนาดใหญ่เฉลี่ย 2-3 พันล้านบาท และดีลมีขนาดเล็กด้วย จากที่สามารถปิดดีลได้ในช่วงปีก่อน 2 ดีล รวมทั้งการเพิ่มธุรกิจใหม่ๆ เช่น กองทุนรวม กองทุนส่วนบุคคล
"ในปีนี้ยอมรับว่าเป็นปีที่เหนื่อยแต่เราจะต้องหาธุรกิจใหม่ๆ เพิ่มขึ้นเราคงไม่เน้นนายหน้าแต่กัยังมีช่องทางอื่นที่เข้ามาให้เราเห็นโดยเฉพาะสถานการณ์วิกฤตการเงินที่หลายบริษัทได้รับผลกระทบ สภาพคล่องไม่ดี เศรษฐกิจแย่แบบนี้" นางนลินี กล่าว