(เพิ่มเติม) SCB เผยปี 51 กำไร 2.14 หมื่นลบ. โต 23.4%

ข่าวหุ้น-การเงิน Monday January 19, 2009 17:33 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ธนาคารไทยพาณิชย์(SCB)เปิดเผยผลประกอบการสิ้นปี 2551 ธนาคารมีผลกำไร 21,414 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 23.4% จากปี 2550 แม้ว่าธนาคารจะมีผลขาดทุนส่วนหนึ่งจากการขายและการด้อยค่าของตราสารทางการเงินที่ปรับลดลงตามภาวะตลาดทั่วโลกในช่วงไตรมาสที่ 3 และที่ 4 แต่ธนาคารยังมีระดับกำไรสุทธิที่สูงจากการเติบโตอย่างต่อเนื่องของรายได้ดอกเบี้ยสุทธิ (NII) ที่เพิ่มขึ้น 13.2% และรายได้ที่ไม่ใช่ดอกเบี้ย (Non-NII) ที่เพิ่มขึ้น 12.4% จากปี 2550

นอกจากนี้ ธนาคารยังประสบความสำเร็จในการควบคุมและการบริหารค่าใช้จ่ายซึ่งธนาคารดำเนินการมาอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้อัตราส่วนค่าใช้จ่ายต่อรายได้รวมปรับตัวดีขึ้นอย่างชัดเจน คือ 49.4% ในปี 2551 เทียบกับ 53.0% ในปี 2550 แม้ว่าจะมีค่าใช้จ่ายในส่วนที่เกี่ยวข้องกับอุปกรณ์และพนักงานที่เพิ่มขึ้นตามการขยายธุรกิจและการเปิดสาขาใหม่

ธนาคารมีอัตราส่วนเงินกองทุนต่อสินทรัพย์เสี่ยงในระดับที่สูงถึง 16.3% มีกำไรสุทธิปี 2551 จำนวน 21,414 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 23.4 % จากปี 2550

ธนาคารได้ให้ความสำคัญในเรื่องการบริหารความเสี่ยงและผลตอบแทนอย่างมีประสิทธิภาพ ส่งผลให้ส่วนต่างอัตราดอกเบี้ยสุทธิ (NIM) ปรับตัวดีขึ้นถึง 0.13% มาอยู่ที่ 3.93 % ณ สิ้นปี 2551 ในขณะเดียวกันจากการตระหนักถึงสภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัวลงและความเสี่ยงต่างๆ ที่อาจเกิดขึ้น ธนาคารได้เพิ่มความระมัดระวังในการดำเนินการและใช้เกณฑ์การพิจารณาสินเชื่อที่เข้มงวด ส่งผลให้การขยายตัวของสินเชื่อโดยรวมของธนาคารในปี 2551 อยู่ที่ 5.6% ชะลอลงจากปี 2550 แต่เป็นอัตราที่ใกล้เคียงกับการขยายตัวของตลาด

ทั้งนี้ รายได้รวมของธนาคารปรับเพิ่มขึ้น 12.9% จากปีก่อนหน้า ขณะที่สินเชื่อด้อยคุณภาพปรับตัวลดลงอยู่ที่ 5.1% (เทียบกับ 6.1% ในปี 2550) และมีอัตราส่วนเงินสำรองต่อสินเชื่อด้อยคุณภาพอยู่ในระดับที่สูงที่ 83.3%

นอกจากนี้ เพื่อแสดงถึงการดำเนินการที่รอบคอบและระมัดระวังตลอดจนคำนึงถึงสภาวะเศรษฐกิจในอนาคตที่จะถดถอยธนาคารได้ปรับเพิ่มการตั้งสำรองรายเดือนจาก 300 ล้านบาทต่อเดือนเป็น 500 ล้านบาทต่อเดือน เริ่มตั้งแต่ไตรมาสที่ 4/2551 และจะต่อเนื่องไปในปี 2552

นายวิชิต สุรพงษ์ชัย ประธานกรรมการบริหาร SCB กล่าวว่า ผลกำไรในธุรกิจหลักของธนาคารยังคงเติบโตได้ต่อเนื่องแม้ว่าเศรษฐกิจของประเทศและของโลกจะประสบภาวะชะลอตัว ส่วนปี 2552 ธนาคารตระหนักถึงสถานการณ์เศรษฐกิจที่ชะลอตัวและปัจจัยเสี่ยงต่างๆที่ยังมีอยู่ ดังนั้น การดำเนินธุรกิจต่างๆ ของธนาคารจะเป็นไปอย่างรอบคอบและระมัดระวัง ตลอดจนติดตามสถานการณ์ใกล้ชิดและปรับตัวต่อเนื่อง



เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ