หุ้น TSTH ราคาร่วงลง 7.63% มาอยู่ที่ 1.09 บาท ลดลง 0.09 บาท มูลค่าซื้อขาย 5.20 ล้านบาท เมื่อเวลา 10.04 น. ส่วนหุ้นลูก TSTH-W1 อยู่ที่ 0.30 บาท ลดลง 0.03 บาท(-9.09%)
ล่าสุดเมื่อเวลา 10.22 น.ราคาหุ้น TSTH อยู่ที่ 1.10 บาท ลดลง 0.08 บาท(-6.78%)มูลค่าซื้อขาย 10.90 ล้านบาท ส่วนหุ้นลูก TSTH-W1 อยู่ที่ 0.31 บาท ลดลง 0.02 บาท(-6.06%)มูลค่าซื้อขาย 2.26 ล้านบาท
นายภูวดล ลาภอุดมสุข ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายกลยุทธ์การลงทุน บล.เอเซียพลัส กล่าวว่า ราคาหุ้น TSTH ปรับตัวลงในเช้านี้ คาดว่าจะเป็นผลจากที่ผลประกอบการงวดไตรมาส 3/51 (สิ้นสุดธ.ค.)ออกมาพลิกเป็นขาดทุน ซึ่งก็เป็นไปตามราคาเหล็กโลกที่ปรับตัวลง และรับผลจากวิกฤตเศรษฐกิจโลกด้วย
ส่วนสัญญาณทางเทคนิคแสดงทิศทางการแกว่งไซต์เวย์ โดยมีแนวรับ 1 บาท แนวต้าน 1.10 บาท
บมจ. ทาทา สตีล (ประเทศไทย)หรือ TSTH และบริษัทย่อย ประกาศผลการดำเนินงานงวดไตรมาส 3/51 (สิ้นสุด 31 ธ.ค.)ขาดทุนสุทธิ 2.27 พันล้านบาท ขาดทุนสุทธิต่อหุ้น 0.27 บาท ลดลงเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 616.56 ล้านบาท กำไรสุทธิต่อหุ้น 0.07 บาท
บทวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.กิมเอ็ง(ประเทศไทย)ระบุว่า ผลประกอบการที่ขาดทุนหนัก อาจจะสร้างแรงกดดันด้านลบต่อราคาหุ้น เนื่องจากสถานการณ์เศรษฐกิจและราคาเหล็กในปัจจุบันทรุดตัวลงอย่างมาก จึงปรับลดประมาณการลง ประเมินราคาเหมาะสมเท่ากับ 1.5 บาท จากเดิม 2 บาท แต่มองว่าหุ้น TSTH เป็นหุ้นที่มีศักยภาพหากราคาเหล็กและตลาดเหล็กมีการฟื้นตัว
ในเบื้องต้นคาดหมายว่าผลประกอบการในไตรมาส 4/52 (งวด ม.ค. — มี.ค. 52) จะยังน่าผิดหวังต่อ โดยประเมินตัวเลขกำไรจะใกล้เคียงศูนย์ เนื่องจากภาวะความต้องการเหล็กในประเทศยังซบเซา ส่วนราคาเหล็กเส้นทรงตัวที่บริเวณ 17,000-18,000 บาท/ตัน และ TSTH ยังมีสต็อกเหล็ก ณ สิ้นไตรมาสก่อนประมาณ 4,508 ล้านบาท ซึ่งจากการตรวจสอบข้อมูลจากสถาบันเหล็กพบว่าไทยนำเข้าเศษเหล็กในช่วงเดือน ต.ค. — พ.ย. มีราคาค่อนข้างสูงเท่ากับ 19,000-20,000 บาท/ตัน
โดยประเมินว่าราคาเหล็กจะสามารถฟื้นตัวได้ในไตรมาสถัดไป จากโรงงานอุตสาหกรรมต่างๆทั่วโลกกลับมาผลิตหลังจากที่หยุดการผลิตเพื่อเคลียร์สต็อกสินค้าในช่วงปลายปี 2551 ต่อเนื่องถึงต้นปี 2552 และได้แรงหนุนจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของจีน 4 ล้านล้านหยวน และ สหรัฐฯอีกประมาณ 8.5 แสนล้านเหรียญ รวมถึงเริ่มมีการใช้ราคาสินแร่เหล็กใหม่ ซึ่งคาดราคาจะปรับลดลงประมาณ 30-50%