นายริช ฟิทเจอรัล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ. ทีมพรีซิชั่น (TEAM) กล่าวว่า ในปี 52 มั่นใจว่าจะสามารถขับเคลื่อนธุรกิจให้เติบโตต่อเนื่องจากปี 51 สวนทางกับเศรษฐกิจโลกที่อยู่ในภาวะถดถอย
แม้บริษัทคาดการณ์ว่ายอดขายและกำไรของไตรมาส 1/52 จะลดลงเนื่องจากความต้องการของตลาดที่อ่อนตัวลงและการชะลอการรับสินค้า แต่บริษัทก็ยังคาดการณ์ว่ายอดขายของทั้งปี 52 จะยังคงมีแนวโน้มเจริญเติบโต เนื่องจากมองว่าเป็นโอกาสของธุรกิจรับจ้างผลิตชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ ซึ่ง TEAM สามารถผลิตสินค้าได้ในต้นทุนที่ต่ำกว่าเจ้าของสินค้าผลิตเอง ดังนั้นจึงเป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่คาดว่าทางเจ้าของผลิตภัณท์จะพิจารณาจ้างบริษัทรับจ้างผลิตเพื่อลดต้นทุนดำเนินงานในสถานการณ์ปัจจุบัน
นอกจากนี้ในปัจจุบันโรงงานการผลิตส่วนขยายแห่งใหม่ที่จังหวัดปราจีนบุรีของ TEAM พร้อมที่จะผลิตสินค้าในเชิงพาณิชย์ได้เต็มตัว ซึ่งนับเป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่จะสนับสนุนให้แนวโน้มผลประกอบการของบริษัทเติบโตไปในทิศทางที่ดี โดยปัจจุบันโรงงานแห่งนี้ใช้กำลังการผลิตเพียง 40% ของกำลังการผลิตทั้งหมด ดังนั้นจึงสามารถขยายกำลังการผลิตสำหรับปี 52 และ 53 ได้อย่างคล่องตัวเพื่อรองรับแนวโน้มการเจริญเติบโตนี้
"ในปี 52 ถือเป็นปีที่ TEAM พร้อมเต็มที่เพื่อการรองรับลูกค้าใหม่และการขยายธุรกิจมากขึ้น หลังจากช่วงที่ผ่านมาได้แต่งตั้งผู้บริหารมืออาชีพที่เชี่ยวชาญในการทำตลาดสินค้าชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์เข้ามารับตำแหน่งสำคัญในบริษัท รวมถึงผู้บริหารด้านซัพพลายเชน ด้านบุคคลากร และตัวแทนขาย ในขณะเดียวกันได้เพิ่มทีมขายที่มีฝีมือเข้ามาเพิ่มเติมพร้อมๆกับการขยายสาขาที่ต่างประเทศ ทั้งกลุ่มยุโรป, อเมริกา ไทย และสิงคโปร์ ซึ่งถือเป็นการใช้นโยบายเชิงรุกเพื่อขยายฐานตลาดให้กว้างขวางขึ้น ซึ่งสอดคล้องกับนโยบายของบริษัทที่มุ่งเน้นการกระจายฐานลูกค้าให้กว้างขึ้น เพื่อครอบคลุมในแต่ละภูมิภาคโดยมีทีมงานการขายของ TEAM และตัวแทนในต่างประเทศ"นายริช กล่าว
นายริช ฟิทเจอรัล กล่าวย้ำว่า การเข้าถึงลูกค้าอย่างใกล้ชิดจะเป็นสิ่งที่ผลักดันเศรษฐกิจในภาพรวมของกลยุทธการเจริญเติบโตของบริษัท และประการสำคัญขณะนี้บริษัทมีความพร้อมทางด้านโรงงานการผลิตแล้วเป็นอย่างดี และนอกจากนั้น การผลิตสินค้าหลายประเภทของบริษัทได้รับการรับรองมาตรฐานในระดับสากล วิสัยทัศน์ของบริษัทคือ การเป็นบริษัทรับจ้างผลิต (EMS) ที่ดีที่สุด เป็นหุ้นส่วนทางการค้าของลูกค้า ซึ่งคาดว่าจะสนับสนุนให้ธุรกิจมีการเติบโตได้อย่างชัดเจนต่อเนื่องจากปี 51 ถึงแม้ว่าเศรษฐกิจโลกจะอยู่ในช่วงชะลอตัวก็ตาม