นายชนิตร ชาญชัยณรงค์ ผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai) กล่าวว่า ตั้งแต่ช่วงปลายปี 51 จนถึงปัจจุบันมีบริษัทที่แสดงความจำนงต้องการเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์เพิ่มอีกเกือบ 30 แห่ง รวมกับบริษัทที่แสดงความจำนงไว้เดิม 30 บริษัท ทำให้มีบริษัทที่แสดงความจำนงเพิ่มเป็น 60 แห่ง ดังนั้น จึงเชื่อว่าเป้าหมายที่จะมีบริษัทจดทะเบียนใหม่ในปีนี้ 45 แห่งน่าจะเป็นไปได้
เนื่องจากมีการจองสิทธิประโยชน์ทางภาษีและเตรียมความพร้อมไว้เรียบร้อยแล้วในหลายๆ บริษัท และคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์(ก.ล.ต.)ได้อนุมัติไฟลิ่งไปแล้ว 14 แห่ง และคาดว่าในช่วงไตรมาส 1/52 จะอนุมัติได้ทั้งหมด 25 แห่ง ซึ่งขณะนี้มีบริษัทที่แสดงความจำนงเพื่อจองวันในการเข้าเทรดแล้ว 3 แห่ง
แต่อย่างไรก็ตาม การที่ตลาดจะกลับมาคึกคักก็ต้องไปตามความเชื่อมั่นทางเศรษฐกิจและการเมือง รวมถึงภาวะเศรษฐกิจโลก ดังนั้น เชื่อว่าตลาดหุ้นไทยน่าจะกลับมาคึกคักและเห็นชัดเจนในไตรมาส 3/52
นายชนิตร กล่าวว่า สำหรับบริษัทจดทะเบียนรายเดิม ตลท.ก็มีมาตรการช่วยเหลือในช่วงที่ประสบปัญหาผลกระทบจากเศรษฐกิจโดยรวม อาทิ วานนี้ได้เชิญมาร่วมพูดคุยและนำเสนอข้อมูลบริษัทว่าประสบปัญหาอย่างไรบ้าง โดยได้เชิญกลุ่มยานยนต์และอิเล็คทรอนิคส์มาแลกเปลี่ยนความคิดเห็น ถือว่าได้รับมุมมองที่หลากหลายและข้อแนะนำที่ดีระหว่างธุรกิจ
นอกจากนี้ ตลท.จะมีการสนับสนุนการจัดประชุมผู้ถือหุ้น โดยได้เตรียมสถานที่ที่ศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ และอาคารตลาดหลักทรัพย์ฯ เพื่อให้บริษัทจดทะเบียนมาใช้สถานที่ในการประชุมผู้ถือหุ้นในช่วงปลาย มี.ค.จนถึงเดือน เม.ย.ซึ่งจะช่วยลดค่าใช้จ่ายของบริษัทจดทะเบียน รวมถึงง่ายต่อการเข้าร่วมประชุมของผู้ถือหุ้นและผู้สื่อข่าว ซึ่งได้ยื่นสอบถามไปยังบริษัทจดทะเบียนประมาณ 200 แห่ง เบื้องต้นได้รับการตอบรับที่ดี