ภาวะตลาดหุ้นลอนดอน: หุ้นกลุ่มแบงค์ทรุด ฉุดฟุตซี่ปิดลบ 17.07 จุด

ข่าวหุ้น-การเงิน Wednesday January 21, 2009 08:00 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดลบติดต่อกัน 2 วันทำการเมื่อคืนนี้ (20 ม.ค.) เนื่องจากนักลงทุนกระหน่ำขายหุ้นกลุ่มธนาคารจนดิ่งลงแตะระดับต่ำสุดในรอบ 15 ปี ซึ่งเป็นผลมาจากความกังวลที่ว่าอาจมีธนาคารพาณิชย์อีกหลายแห่งที่ถูกรัฐบาลอังกฤษรวบมาเป็นกิจการของรัฐ

สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า ดัชนี FTSE 100 ปิดลบ 17.07 จุด สู่ 4,091.40 จุด

เกรแฮม เซคเกอร์ นักวิเคราะห์จากมอร์แกน สแตนลีย์ในกรุงลอนดอน กล่าวว่า "วิกฤตการณ์ที่เกิดขึ้นกับภาคการธนาคารเป็นปัจจัยสำคัญที่ฉุดตลาดหุ้นลอนดอนและตลาดหุ้นทั่วโลกทรุดตัวลง สถานการณ์ที่เกิดขึ้นกับรอยัล แบงค์ ออฟ สก็อตแลนด์ ทำให้นักลงทุนกังวลว่าจะมีธนาคารพาณิชย์อีกหลายแห่งที่ถูกฮุบกิจการเป็นของรัฐ"

รอยัล แบงค์ ออฟ สก็อตแลนด์ (RBS) คาดว่าธนาคารจะขาดทุนปี 2551 สูงถึง 4.13 หมื่นล้านดอลลาร์ ซึ่งเป็นระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์สำหรับภาคเอกชนในอังกฤษ ขณะที่รัฐบาลอังกฤษเปิดเผยว่าจะเพิ่มการถือครองหุ้นใน RBS ถึง 70%

ทั้งนี้ รัฐบาลอังกฤษได้ทำสว็อปหุ้นบุริมสิทธิ์ 5 พันล้านปอนด์กับหุ้นสามัญของ RBS ซึ่งทำให้จำนวนหุ้นของรัฐบาลเพิ่มขึ้นเป็น 70% โดยการดำเนินการดังกล่าวเป็นไปตามการเรียกร้องของ RBS เพื่อยุติการจ่ายดอกเบี้ยรายปีราว 600 ล้านปอนด์ แต่นายแดนนี กาเบย์ อดีตนักเศรษฐศาสตร์ของธนาคารกลางอังกฤษกล่าวว่า การดำเนินการของรัฐบาลในขณะนี้ก็คือการยึดทรัพย์สมบัติเป็นของชาติอย่างช้าๆ และเป็นการแก้ปัญหาที่ปลายเหตุ

อย่างไรก็ตาม กอร์ดอน บราวน์ นายกรัฐมนตรีอังกฤษ ยืนยันว่าการที่รัฐบาลอังกฤษตัดสินใจใช้มาตรการฟื้นฟูภาคการเงินก็เพราะต้องการควบคุมระบบการเงินภายในประเทศให้มีความรัดกุมมากขึ้น ซึ่งมาตรการดังกล่าวครอบคลุมถึงการรับประกันสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงและเปิดทางให้ธนาคารกลางอังกฤษมีสิทธิอำนาจในการเข้าซื้อหุ้นในสถาบันการเงินภายในประเทศ

มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจฉบับที่สองของอังกฤษถือเป็นการสานต่อจากมาตรการฉบับแรกที่ประกาศใช้เมื่อเดือนต.ค.ปีที่แล้ว ซึ่งครอบคลุมถึงการอัดฉีดเงินทุน 5 หมื่นล้านปอนด์ให้กับธนาคารพาณิชย์ภายในประเทศ และขยายวงเงินกู้ 2.50 แสนล้านปอนด์ให้กับธนาคารพาณิชย์

หุ้นธนาคารบาร์เคลย์สดิ่งลง 17.2% หุ้น HSBC ร่วงลง 3.2% และหุ้น RBS ร่วงลง 11.2%


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ