นายตัน คอง คูน ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และกรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคาร กรุงศรีอยุธยา(BAY) เปิดเผยว่า ในปี 52 ธนาคารตั้งเป้าขยายสินเชื่อ 6% หรือสินเชื่อใหม่จำนวน 3.5 หมื่นล้านบาท ภายใต้คาดการณ์ภาพรวมเศรษฐกิจปีนี้จะเติบโต 0.5-2.0% เป็นการขยายตัวต่ำสุดในรอบ 10 ปี
กลยุทธ์ของธนาคารในปีนี้จะมุ่งเน้นการขยายฐานลูกค้ารายย่อยมากขึ้น โดยอยู่ระหว่างการพิจารณาซื้อกิจการธุรกิจการเงินเพื่อรายย่อยเข้ามาเพิ่มเติมอีก โดยฉพาะสินเชื่อส่วนบุคคลหรือบัตรเครดิต ซึ่งธนาคารมีแผนจะออกหุ้นกู้วงเงินไม่เกิน 1 หมื่นล้านบาทภายในปีนี้ เพื่อรองรับการซื้อกิจการดังกล่าว
"ลูกค้ารายย่อย สามารถสร้างรายได้มากกว่าลูกค้ารายหใหญ๋ซึ่งมีอำนาจการต่อรองมากกว่า การขยายธุรกิจการเงินสู่ลูกค้ารายย่อย เป็นการกระจายความเสี่ยงซึ่งถือเป็นเรื่องสำคัญ" นายตัน กล่าว
ขณะเดียวกันจะเพิ่มสัดส่วนรายได้ค่าธรรมเนียมอีก 10% จากปี51 ที่มีสัดส่วนอยู่ที่ 34% และลดสัดส่วนค่าใช้จ่ายจาก 60.6% เหลือ 55%
ในด้านสินเชื่อจะเน้นขยายสินเชื่อรายย่อยเพิ่มจากสัดส่วน 32% เป็น 36% และรักษาระดับฐานลูกค้าเงินฝากออมทรัพย์และกระแสรายวัน ในสัดส่วนประมาณ 34% โดยคาดว่าส่วนสัดส่วนสินเชื่อต่อเงินฝากจะเพิ่มเป็น 104% เป็น 106% ส่วนต่างอัตราดอกเบี้ยสุทธิ(NIM)เพิ่มเป็น 4.2% จาก 4.13% ในปี 51 และยังคงรักษาเงินกองทุน (BIS) ที่ 15%
อย่างไรก็ตาม สำหรับหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPL) มีแนวโน้มว่าอาจเพิ่มขึ้นเล็กน้อยเมื่อเทียบกับปี 51 ที่มีสัดส่วน NPL ราว 8.9% ของยอดสินเชื่อรวม ซึ่งเป็นไปตามภาพรวมเศรษฐกิจ ดังนั้นธนาคารก็จะพยายามขาย NPL ออกไปให้ได้บ้าง เพื่อช่วยลด NPL ลง แม้จะยอมรับว่าภาวะขณะนี้การขาย NPL คงทำได้ยาก
นายตัน กล่าวว่า ในสัปดาห์นี้ธนาคารจะพิจารณาปรับลดอัตราดอกเบี้ยทั้งเงินฝากและเงินกู้ โดยต้องพิจารณาการแข่งขันและระดับการปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายของภาครัฐ แต่ก็คาดว่าจะไม่ได้ปรับลดในอัตราเดียวกับธนาคารขนาดใหญ่ทั้งหมด