แหล่งข่าวจากคณะกรรมการเจ้าหนี้ บมจ.ทีทีแอนด์(TT&T) เปิดเผยว่า กลุ่มเจ้าหนี้สถาบันการเงินไม่พอใจกับผลการโหวตเลือกผู้จัดทำแผนฟื้นฟูกิจการ TT&T ที่ผลโหวต 55% ให้บริษัทเป็นผู้จัดทำแผนเอง แทนที่จะเป็นบริษัท พี แพลนเนอร์ ของนายพิสิฐ ลี้อาธรรม อดีตซีอีโอของทีทีแอนด์ที และอดีตผู้บริหารธนาคารกรุงเทพ เนื่องจากแผนฟื้นฟูฯ ของ TT&T ที่คาดว่าจะเน้นการทำแฮร์คัตหนี้เป็นหลัก
ปัจจุบัน TT&T มียอดหนี้ค้างอยู่กับสถาบันการเงินกว่า 1.9 หมื่นล้านบาท จากยอดหนี้สินทั้งหมดของบริษัท 2.3 หมื่นล้านบาท ตามงบการเงินชั่วคราว ณ วันที่ 30 ก.ย.51 ซึ่งมีบริษัท KPMG ภูมิใจ จำกัด เป็นผู้ตรวจสอบบัญชี โดยเจ้าหนี้สถาบันการเงิน ได้แก่ ธนาคารกสิกรไทย, ธนาคารกรุงไทย, ธนาคารออมสิน, โกลด์แมน แซค และ แบงก์ ออฟ อเมริกา รวมทั้งกองทุนเพื่อการลงทุนต่าง ๆ
แหล่งข่าว กล่าวว่า เป็นที่น่าสังเกตุว่าก่อนโหวตเลือกผู้ทำแผน บมจ.ทีโอที ได้เรียกหนี้จาก TT&T เป็นวงเงิน 3 หมื่นล้านบาท ซึ่งเจ้าหน้าที่ของ TT&T ไม่ได้โต้แย้งและยอมรับหนี้ในจำนวน 2.2 หมื่นล้านบาท และทำให้ยอดหนี้สินรวมของ TT&T เพิ่มเป็น 4.5 หมื่นล้านบาท ทำให้ทีโอทีกลายเป็นเจ้าหนี้หลัก ซึ่งทีโอทีใช้สิทธิโหวตเลือก TT&T เป็นผู้ทำแผนฟื้นฟูกิจการ
ขณะที่เจ้าหนี้เดิม ที่ส่วนใหญ่เป็นสถาบันการเงินไม่พอใจผลการโหวตดังกล่าว รวมทั้งบมจ.ล็อกซ์เล่ย์ (LOXLEY) ผู้ถือหุ้นรายใหญ่อันดับสองของ TT&T ก็เห็นว่า TT&T ควรจะคัดค้านการเรียกคืนหนี้ของทีโอที
ขณะนี้ TT&T อยู่ระหว่างจัดทำแผนเพื่อเสนอเจ้าหนี้ เพื่อให้เจ้าหนี้พิจารณาก่อนนำเสนอต่อศาลล้มละลาย