ภาวะตลาดหุ้นนิวยอร์กดาวโจนส์ปิดพุ่ง 279.01 จุด ขานรับผลกำไร IBM

ข่าวหุ้น-การเงิน Thursday January 22, 2009 06:36 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นกว่า 270 จุดเมื่อคืนนี้ (21 ม.ค.) เนื่องจากนักลงทุนขานรับผลประกอบการที่แข็งแกร่งเกินคาดของบริษัท อินเตอร์เนชั่นเนล บิสิเนส แมชชีน คอร์ป (ไอบีเอ็ม) และการพุ่งขึ้นของหุ้นบางตัวในกลุ่มการเงิน นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงหนุนจากการที่นักลงทุนเชื่อมั่นว่ารัฐบาลสหรัฐภายใต้การนำของบารัค โอบามา จะใช้มาตรการฟื้นฟูเศรษฐกิจที่มีประสิทธิภาพ

สำนักข่าวเอพีรายงานว่า ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดพุ่ง 279.01 จุด หรือ 3.51% แตะที่ 8,228.10 จุด ขณะที่ดัชนี S&P 500 ปิดบวก 35.02 จุด หรือ 4.35% แตะที่ 840.24 จุด และดัชนี Nasdaq ปิดบวก 66.21 จุด หรือ 4.60% แตะ 1,507.07 จุด

ปริมาณการซื้อขายในตลาดหุ้นนิวยอร์กมีอยู่ราว 1.74 พันล้านหุ้น มีจำนวนหุ้นบวกมากกว่าหุ้นลบในอัตราส่วน 4 ต่อ 1 ส่วนปริมาณการซื้อขายในตลาด Nasdaq มีอยู่ราว 2.14 พันล้านหุ้น

ภาวะการซื้อขายในตลาดเป็นไปอย่างคึกคักเมื่อไอบีเอ็มเปิดเผยว่าผลกำไรไตรมาส 4 ปี 2551 พุ่งขึ้น 12% ซึ่งมากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ ขณะที่บริษัท แอลเอ็ม อิริคสัน ซึ่งเป็นผู้ผลิตอุปกรณ์ไร้สายของสวิตเซอร์แลนด์ รายงานผลประกอบการที่ดีเกินคาดเช่นกัน

มาร์ก ลอฟริดจ์ ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการเงินของไอบีเอ็มกล่าวว่า ในไตรมาส 4 บริษัทมีตัวเลขค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานและค่าใช้จ่ายทั่วไปที่ลดลงสู่ระดับ 5.83 พันล้านดอลลาร์ โดยค่าใช้จ่ายที่ลดลงนั้นส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากการจ้างพนักงานชั่วคราวมากขึ้น

คาร์ล คลอนช์ นักวิเคราะห์จากการ์ทเนอร์ อิงค์กล่าวว่า "ไอบีเอ็มสบโอกาสใช้ช่วงเวลาที่ตลาดไอทีซบเซาเช่นนี้เป็นช่องทางปรับลดต้นทุนค่าใช้จ่าย ซึ่งเป็นกลยุทธ์ที่บริษัทชิงลงมือปฏิบัติเพื่อเก็บเกี่ยวผลกำไรได้เหนือคู่แข่งรายอื่นๆ"

ทั้งนี้ หุ้นไอบีเอ็มพุ่งขึ้นเกือบ 12% ขณะที่หุ้นแอปเปิ้ลพุ่งขึ้น 5.9% แม้มีรายงานว่าคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ของสหรัฐ (SEC) ยื่นมือตรวจสอบการออกแถลงการณ์ของบริษัท แอปเปิ้ล อิงค์ เกี่ยวกับปัญหาสุขภาพของนายสตีฟ จ็อบส์ ซีอีโอแอปเปิ้ล เพื่อให้มั่นใจว่านักลงทุนไม่ได้รับข้อมูลชี้นำที่ผิด ส่วนหุ้นอินเทลพุ่งขึ้น 1% จากข่าวที่ว่าอินเทลเตรียมปิดโรงงานในเอเชียและลดขนาดการดำเนินงานในสหรัฐ ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่องาน 6,000 ตำแหน่ง

หุ้นกลุ่มธนาคารดีดตัวขึ้น โดยหุ้นแบงค์ ออฟ นิวยอร์ เมลลอน คอร์ป พุ่งขึ้น 23% หลังจากธนาคารคาดการณ์ว่าจะมีผลกำไรในไตรมาส 4 ขณะที่หุ้นซิตี้กรุ๊ปพุ่งขึ้น 31% และหุ้นแบงค์ ออฟ อเมริกาดีดขึ้น 31%

นักลงทุนจับตาดูการทำงานของรัฐบาลโอบามา หลังจากพิธีสาบานตนเข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดีของโอบามาได้รับการตอบรับอย่างยิ่งใหญ่ทั้งภายในและต่างประเทศ โดยล่าสุดมีรายงานว่า ทิโมธี ไกธ์เนอร์ ว่าที่รมว.คลังสหรัฐ เรียกร้องให้สภาคองเกรสผ่านแผนกระตุ้นเศรษฐกิจซึ่งเขามองว่าจะช่วยฟื้นฟูเศรษฐกิจให้ขยายตัวขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ พร้อมกับให้คำมั่นสัญญว่าจะปฏิรูปโครงการฟื้นฟูมูลค่า 7 แสนล้านดอลลาร์ของรัฐบาลสหรัฐ

ไกธ์เนอร์กล่าวต่อคณะกรรมการธิการด้านการเงินแห่งวุฒิสภาสหรัฐว่า "ต้นทุนการกอบกู้วิกฤติเศรษฐกิจและการเงินในสหรัฐจะบานปลายกว่าที่คิดหากเราไม่เริ่มใช้มาตกรการที่มีประสิทธิภาพในตอนนี้ วิกฤตการณ์ที่เข้าขั้นรุนแรงระดับนี้จำเป็นจะต้องใช้ 'ยาแรง' จึงจะรับมืออยู่ เมื่อดูจากข้อมูลพื้นฐานแล้วเราจำเป็นจะต้องปฏิรูปโครงการรลดสินทรัพย์ที่มีปัญหา (TARP) มูลค่า 7 แสนล้านดอลลาร์ เพื่อสร้างความเชื่อมั่นว่าการไหลเวียนในตลาดสินเชื่อมีมากพอที่จะกระตุ้นกลไกตลาดให้กลับมาทำงานตามปกติ เราต้องใช้แผนแบบเชิงรุกเพื่อปกป้องประชาชนผู้เสียภาษีและปกป้องประชาชนไม่ให้ต้องสูญเสียบ้านและเสียงาน อีกทั้งจะช่วยพยุงธุรกิจขนาดเล็กให้ลืมตาอ้าปากได้ด้วย"



เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ