บมจ.ท่าอากาศยานไทย(AOT หรือ ทอท.)เตรียมเสนอต่อคณะกรรมการบริษัทพิจารณาปรับลดค่าเช่าและยืดสัญญาเช่าให้กับร้านค้าภายในสนามบินทุกแห่ง ซึ่งรวมถึงร้านคิงเพาเวอร์ในเดือนหน้า(ก.พ.) ขณะที่คาดหวังเที่ยวบินจะกระเตื้องขึ้นและมีรายได้ชดเชยรายได้ได้ที่หายไปราว 400 ล้านบาทจากการที่บริษัทลดอัตราค่าธรรมเนียมการขึ้น-ลงของอากาศยาน และค่าธรรมเนียมที่เก็บอากาศยาน (Landing & Parking Fee) 20%
"เรายังคาดหวังว่าการลดค่าธรรมเนียมจะทำให้มีเครื่องบินเข้ามาใช้มากขึ้น เราลดค่าธรรมเนียมลง 20% ดีกว่าไม่ได้อะไร เหมือนเราเคยได้ 100 แล้วลดมาเหลือ 80 ก็ยังดีกว่าหายไปเลย คิดว่าช่วงนี้ที่ยังเป็นไฮซีซั่น (ม.ค.-มี.ค.) จะมีปริมาณเที่ยวบินมากขึ้นชดเชยรายได้ที่ประเมินว่าจะหายไป 400 ล้าบาท"นายเสรีรัตน์ ประสุตานนท์ ผู้อำนวยการท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ และ รักษาการกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ AOT กล่าว
ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ 1 ก.พ.จนถึง 30 ก.ย.52 เป็นเวลา 8 เดือน ทอท.จะลดอัตราค่าธรรมเนียมการขึ้น-ลงของอากาศยาน และค่าธรรมเนียมที่เก็บอากาศยาน(Landing & Parking Fee) 20% ของท่าอากาศยานในความรับผิดชอบทั้ง 6 แห่ง คือ สุวรรณภูมิ, เชียงใหม่,เชียงราย, ภูเก็ต และหาดใหญ่
นายเสรีรัตน์ กล่าวว่า ขณะนี้ปริมาณเที่ยวบินที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิเข้าสู่ภาวะปกติแล้ว ซึ่งมีปริมาณเที่ยวบินประมาณวันละ 650 เที่ยว และผู้โดยสาร 1 แสนคนต่อวัน และเชื่อว่าในช่วงตรุษจีนจะมีนักท่องเที่ยวจากจีน ญี่ปุ่นเข้ามาเพิ่ม หลังจากที่ทางการจีนประกาศยกเลิกประเทศไทยเป็นประเทศเสี่ยงภัย ขณะที่นักท่องเที่ยวจากตะวันออกกลาง และยุโรป ไม่ได้ลดลง
อย่างไรก็ตาม รักษาการกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ AOT ยังไม่สามารถประเมินผลประกอบการในงวดปี 52 (สิ้นสุด ก.ย.) ได้ เพราะในไตรมาส 1/52 เกิดเหตุการณ์ปิดสนามบินราว 10 วัน ทำให้ต้องปรับประมาณการใหม่ และรอผลการปรับลดค่าธรรมเนียมดังกล่าว
สำหรับการลงทุนโครงการก่อสร้างท่าอากาศยานสุวรรณภูมิระยะที่ 2 วงเงินประมาณ 7.8 หมื่นล้านบาท นายเสรีรัตน์ กล่าวว่า จะใช้แหล่งเงินทุนจากบริษัท และ เงินกู้ สัดส่วนประมาณ 50/50 โดยขณะนี้รอ ครม.อนุมัติโครงการจึงจะเริ่มดำเนินการ หลังจาก ครม.อนุมัติจะว่าจ้างที่ปรึกษาโครงการเพื่อหาผู้ออกแบบ และควบคุมงาน จึงคาดว่าในงวดปี 52 คงจะยังใช้เงินไม่มาก
นายเสรีรัตน์ กล่าวว่า ในการประชุมสามัญผู้ถือหุ้นของบริษัทในวันพรุ่งนี้ (23 ม.ค.) ไม่มีวาระแต่งตั้งคณะกรรมการชุดใหม่ ซึ่งเมื่อ 20 ม.ค.ทีผ่านมาได้ยื่นใบลาออกทั้ง 9 คน จากก่อนหน้านี้ลาออกไปแล้ว 2 คน อย่างไรกีดี ก็มีความเป็นไปได้ที่ผู้ถือหุ้นจะสามารถเสนอแต่งตั้งคณะกรรมการชุดใหม่ทั้ง 11 คนได้ในวาระอื่นๆ